“เปิดแผลใต้พรม สมาคมฟุตบอลไทย”

  “มาดามแป้งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคก่อน พูดง่ายๆเหมือนกับมารับของเสียจากผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯชุดเก่า ที่บริหารงานผิดพลาดชัดเจน”

 

“แจ็คกี้ อดิสรณ์ พึ่งยา พิธีกรกีฬาและคอลัมนิสต์” สะท้อนภาพ “หนี้สิน ส.บอลไทย ศึกหนักมรดกเก่า” ใน “รายการช่วยกันคิดทิศทางข่าว” ว่า 

“มาดามแป้ง สะท้อนการบริหารงานผิดพลาด ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯชุดเก่า”

  แจ็คกี้ อดิสรณ์ บอกว่า “มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คนปัจจุบันออกมาแถลงข่าววันที่ 21 มีนาคม 2568 เป็นการสะท้อนการบริหารงานที่ผิดพลาด ของผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯชุดเก่า คือ พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ชัดเจนเพราะตัวเลขมีออกมาให้เห็นชัดเจน ยิ่งการฟ้องร้องกับสยามสปอร์ตซึ่งถือว่าเป็นคู่ค้าสมาคมฟุตบอลฯ ยังมีสัญญาในการดูแลลิขสิทธิ์ไทยลีกอีก 1 ปี แล้วเราไปยกเลิกเขาโดยไม่เป็นธรรม ทำให้สมาคมฟุตบอลฯเสียหาย เพราะเสียเงินแล้วฟ้องก็แพ้เสียค่าทนายเกินจริงตรงนี้ชัดเจน

“ผู้บริหารชุดใหม่ รับของเสียจากผู้บริหารชุดเก่า” 

  “มาดามแป้งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคก่อน พูดง่ายๆเหมือนกับมารับของเสียจากผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯชุดเก่า ทั้งนายกสมาคมหรือสภากรรมการทั้งชุดที่ผ่านมา บริหารงานผิดพลาดชัดเจน ตรงนี้คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าในอนาคตจะทำอย่างไรต่อ มาดามแป้งพยายามจะบอกว่าจะต้องฟ้องร้อง เอาผิดกับอดีตนายกสมาคมฟุตบอลหลายเรื่องหลายประเด็น”

“แฉ 7 ปีที่แล้ว เลขาธิการสมาคมฟุตบอล เคยร้อง กกท.แต่เรื่องเงียบหาย”  

  แจ็คกี้ อดิสรณ์ บอกว่า ความจริงแล้วเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมาเรื่องนี้เคยมีการร้องเรียน โดยอดีตเลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย คือ พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร้องเรียนไปยังผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท.) ให้ตรวจสอบการบริหารจัดการสมาคมฟุตบอลฯ โดยเฉพาะประเด็นที่นายกสมาคมฟุตบอลฯ รับเงินเดือน 2 ตำแหน่ง ทั้งจากสมาคมฟุตบอลและตำแหน่งผู้บริหารไทยลีก ซึ่งตามหลักนายกสมาคมฟุตบอลฯ ไม่สามารถรับเงินเดือนของสมาคมฟุตบอลฯได้ แต่ กกท.ยื่นหนังสือไปยังสมาคมฟุตบอลฯ เพื่อขอข้อมูลและเอกสารต่างๆตรวจสอบ แต่เรื่องเงียบหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งสมัยของมาดามแป้ง และพอแพ้คดีก็เป็นหนี้ เพราะต้องเสียเงิน 360 ล้านบาท บวกกับดอกเบี้ยอีกเลยกลายเป็นเรื่องที่นายกสมาคมฟุตบอลฯคนใหม่ต้องตรวจสอบเอง

“ตัวเลขหนี้จำนวนมหาศาล” 

แจ็คกี้ อดิสรณ์ บอกว่า ตัวเลขหนี้ที่มีจำนวนเยอะทั้งเงินกู้จาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ( ฟีฟ่า ) ในช่วงสถานการณ์โควิดจำนวน 5,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 155 ล้านบาท ตอนนี้ฟีฟ่าจะหักเงินสนับสนุนสมาคมฟุตบอลฯเพื่อนำเงินไปใช้คืน ส่วนในเรื่องของค่าจ้างพนักงาน , นายกสมาคมฟุตบอลฯที่รับเงินเดือนและค่าทนายที่ต่อสู้คดี ที่โดนบริษัทสยามสปอร์ตฟ้อง  ตรงนี้เป็นจุดหนึ่งที่มีตัวเลขออกมา ค่อนข้างเยอะ  ไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่าไหร่

 “วางแนวแก้ระยะสั้น-ยาว เชื่อ บารมี-คอนเนกชั่น มาดามแป้ง ทำได้”

  ส่วนสมาคมฟุตบอลไทยจะกลับมามีเสถียรภาพทางการเงิน ในยุคมาดามแป้งได้หรือไม่  แจ็คกี้ อดิสรณ์ บอกว่า ผมเชื่อว่ามาดามแป้ง จะต้องมองการแก้ไขระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นมาดามแป้งในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลฯ ต้องแก้ไขปัญหาเรื่องการเงินให้อยู่ในสภาพคล่องตัวก่อน โดยลดภาระหนี้สินต่างๆลงก่อน ให้สถานะการเงินของสมาคมฟุตบอลฯค่อนข้างคล่องตัว เชื่อว่าบารมีและคอนเนกชั่นต่างๆ ของมาดามแป้ง น่าจะแก้ไขปัญหาระยะสั้นได้

“วางกลยุทธ์การตลาด เพิ่มเสถียรภาพทางการเงิน”  

  แจ็คกี้ อดิสรณ์ บอกว่า ส่วนเสถียรภาพทางการเงินเป็นเรื่องระยะยาว ซึ่งสมาคมฟุตบอลฯแพ้คดีก็ต้องไปจัดการเจรจาเพื่อลดภาระหนี้สิน หรือดำเนินการอะไรที่ทำให้รู้สึกว่าสมาคมฟุตบอลฯ บริหารการเงินได้คล่องตัวกว่านี้ มาดามแป้งจะต้องทำร่วมกับสภากรรมการฟุตบอลฯ พูดคุยเรื่องกลยุทธ์การตลาดที่จะหาเงินเข้าสมาคมฯ เป็นต้น ผมขอเปรียบเทียบให้ชัดๆว่า สมาคมฟุตบอลฯเป็นองค์กรที่ไม่ได้แสวงหาผลกำไร แต่สามารถนำเงินมาบริหารกิจการ ช่วยส่งเสริมพัฒนาฟุตบอลภายในประเทศ ตั้งแต่รากหญ้าไปจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ได้ 

“ยก สมาคมฟุตบอลอังกฤษเป็นตัวอย่าง มีรายได้จาก 29 แบรนด์ดังเป็นพันธมิตร” 

  แจ็คกี้ อดิสรณ์ บอกว่า สมาคมฟุตบอลของประเทศอังกฤษ มีพันธมิตรที่เป็นพาร์ทเนอร์กับสมาคมฯ เป็นสินค้าระดับโลกถึง 29 แบรนด์ ผมคิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นเรื่องระยะยาว เช่น แผนเชิงการตลาดที่มาดามแป้งต้องพยายามทำให้ได้ ผมเชื่อว่าสมาคมฟุตบอลฯยังมีมูลค่าอยู่ อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งหรือแข็งแรงมากเท่ากับสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ที่เป็นสมาคมระดับโลกที่แบรนด์ดังๆ ทั้งผลิตภัณฑ์กีฬา , เครื่องใช้ไฟฟ้า , สายการบิน , ธนาคาร , เครื่องดื่ม ออกทางโซเชียลมีเดียเยอะแยะไปหมด 29 แบรนด์มาเป็นพันธมิตร นั่นคือรายได้ที่จะนำมาใช้ในกิจการสมาคมฯ 

“ระวัง! หากตั้งคนนอกสอบสวน” 

  ส่วนการตั้งคณะกรรมการคนนอกขึ้นมาตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกนั้น แจ็คกี้ อดิสรณ์ บอกว่า ผมคิดว่าไม่จำเป็นและข้อนี้ต้องระวังด้วย แม้สมาคมฟุตบอลฯ อยู่ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์และเป็นหน่วยงานของ กกท. แต่เป็น 1 องค์กรที่อยู่ภายใต้การดูแลของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ( ฟีฟ่า ) ซึ่งฟีฟ่าไม่ต้องการให้การเมืองหรืออะไรก็ตาม มาแทรกแซงกิจการของสมาคมฟุตบอล ฉะนั้นถ้าจะตั้งคณะกรรมการโดยคนนอกขึ้นมาตรวจสอบก็ต้องระวัง

“ภาพลักษณ์มาดามแป้งขาวสะอาด-ไม่มีปมเรื่องเงิน” 

  “ภาพลักษณ์มาดามแป้ง มีความขาวสะอาดอยู่มากๆ ผมต้องขอใช้คำนี้ ในการที่จะจัดการ แม้ว่าจะทำให้เรียบร้อยยาก แต่คิดว่ากำลังทำในสิ่งที่ให้สมาคมฯโปร่งใส การเข้ามาทำงานมาดามแป้ง ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินอยู่แล้ว และไม่รับเงินเดือนด้วย นอกจากนี้มาดามแป้งก็เป็นสุภาพสตรีที่อยู่กับฟุตบอลมานานมาก ค่อนข้างที่จะมีประสบการณ์เรื่องนี้เยอะ ทำงานเพื่อสิ่งที่ตัวเองรัก ตอนนี้มาดามแป้งก็อินกับฟุตบอลมากๆยิ่งกว่าผู้ชายเสียอีก ต้องขอใช้คำนี้เลย”

เห็นต่างแคมเปญ“คนไทยรักบอลไทย” แนะไปศึกษารายละเอียด กม.ให้ชัดเจนก่อน

  ส่วนที่มาดามแป้งเตรียมผุดแคมเปญ “คนไทยรักบอลไทย” เพื่อระดมทุนช่วยชำระหนี้สมาคมฟุตบอลฯหลังแพ้คดีสยามสปอร์ต แจ็คกี้ อดิสรณ์ บอกว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ผมคิดว่าคนไทยสนับสนุนสมาคมฟุตบอลฯได้หลายทาง เช่น เข้าไปชมเกมในสนามฟุตบอล เป็นการสร้างมูลค่าได้อย่างหนึ่ง เพราะปัจจุบันมีตัวเลขเฉลี่ยค่อนข้างน้อย ทั้งการแข่งขันในระดับทีมชาติและในระดับสโมสร ถ้าคนเข้าไปดูเยอะผมเชื่อว่าผู้สนับสนุนแบรนด์ต่างๆ เห็นบรรยากาศการแข่งขันที่ชวนตื่นเต้นเร้าใจ อาทิ ฟุตบอลอาชีพในแถบยุโรปแฟนบอลเต็มทุกนัด ตรงนี้ช่วยสร้างมูลค่าได้ ส่วนคนที่ไม่ได้เข้าไปดูก็ขอให้ซื้อลิขสิทธิ์แบบถูกต้องซึ่งความจริงก็ไม่แพง แต่ส่วนใหญ่คนจะไปดูช่องทางทางธรรมชาติ ดูทางเว็บเถื่อนต่างๆ 

“การจะให้แฟนบอลไทยระดมทุน ต้องศึกษาเรื่อง พ.ร.บ.การเรี่ยไรก่อน ตรงนี้ถือว่าสำคัญ การรับบริจาคต่างๆมีประมวลกฎหมายอาญาต่างๆอยู่ ต้องระวังศึกษาเรื่องนี้ให้ถ่องแท้ก่อน แต่อาจจะดีก็ได้ หากสมาคมฟุตบอลฯสามารถทำตรงนี้ได้”

“ไทยปั้นนักเตะเยาวชนดีขึ้น แต่ยังไม่เข้าเป้า” 

  แจ็คกี้ อดิสรณ์ ให้มุมมอง การปั้นเยาวชนไทยว่า จากประสบการณ์ที่ผมไปทำข่าวต่างประเทศคิดว่าดีขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ได้ดีอย่างที่เราต้องการ ยังกระจัดกระจายอยู่และสโมสรหลายทีมก็ไม่มีทีมเยาวชน ส่วนใหญ่ก็ไปจับมือกับโรงเรียนหรือพันธมิตรตาม MOU ซึ่งความจริงแล้ว ต้องมีทีมเยาวชนถึงจะสมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันถ้าเทียบกับประเทศญี่ปุ่น เขามีทิศทางหลากหลายในการพัฒนา เช่น ฟุตบอลนักเรียนระดับมัธยมชิงแชมป์แห่งชาติญี่ปุ่น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับทีมอาชีพ เขาแข่งขันโดยมีคนเข้ามาดูจำนวนมากถึง 50,000 - 60,000 คน มากกว่าทีมชาติไทยแข่ง ซึ่งญี่ปุ่นสร้างหลากหลายแนวทาง แต่ของประเทศไทยยังกระจัดกระจายอยู่ และโค้ชที่มีมีความรู้ผ่านการอบรม มีลายเส้นต่างๆตัวเลขยังน้อยอยู่ โค้ชเหล่านี้จะไปสอนนักฟุตบอลระดับ เยาวชน รากหญ้าของเราได้ไม่เยอะ ก็จะมีพวกครูพักรักจำ ตรงนี้ยังเป็นปัญหาเกิดขึ้นหลายอย่าง เราจะไปพูดถึงนักเตะอย่างเดียวก็ไม่ได้

ติดตาม “รายการช่วยกันคิดทิศทางข่าว” ทุกวันอาทิตย์ 11.00-12.00 น.โดย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ คลื่นข่าว MCOT News FM 100.5