วันที่ 28 ตุลาคม 2567 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นำผู้เข้าร่วมอบรมโครงการมองจีนยุคใหม่ ศึกษาดูงานที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาและเทคนิควิศวกรรมฉงชิ่ง ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษา ที่ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของฉงชิ่ง โดยมีนักศึกษาจีน และ นักศึกษาไทย ร่วมแสดงศิลปวัฒนธรรมการชงชาของจีน เพื่อเป็นการต้อนรับคณะ
นอกจากนี้ผู้บริหารวิทยาลัยฯ อาจารย์ กล่าวต้อนรับคณะ โดย Zhang Zhigang ผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ ระบุว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2023 ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ได้พบกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้พบกัน โดยเน้นย้ำว่าไทยและจีนต้องเป็นผู้นำหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ขยายความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนพาพื้นที่สีเขียว พลังงานใหม่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การศึกษา เยาวชน และคชังสมอง ซึ่งเป็นกงจักรสำคัญ ในการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันตก เป็นศูนย์กลางการเปิดสู่ภายนอก เมืองที่ห่างไกลจากทะเลของจีน

ที่ผ่านมาฉงชิ่ง ได้กระชับความร่วมมือด้านอาชีวศึกษากับต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยให้การสนับสนุนด้านนโยบายและเปิดกว้างแก่ศูนย์ประสานงานอาชีวศึกษาระหว่างประเทศหลายแห่ง และเสนอแผนจีนและปัญญาฉงชิ่ง เพื่อพัฒนาอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพของโลก

ในฐานะที่เป็นวิทยาลัยอาชีวศึกษาที่มีชื่อเสียงของโลก อันดับหนึ่งของเมืองฉงชิ่ง วิทยาลัยอาชีวศึกษาและเทคนิควิศวกรรมฉงชิ่ง ได้พัฒนาขีดความสามารถ ด้านการเรียนการสอนระดับนานาชาติ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ระดับชาติ และขยายความร่วมมือกับวิทยาลัยอาชีวศึกษากับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะกับประเทศไทย บรรลุผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมอย่างดี
เมื่อปี 2018 วิทยาลัยอาชีวศึกษาและเทคนิควิศวกรรมฉงชิ่ง ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานอาชีวศึกษาไทย-จีน ขึ้นมา ภายตายการนำของคณะกรรมการการศึกษาเทศบาลนครฉงชิ่ง และสำนักงานการอาชีวศึกษาของไทย ปัจจุบันศูนย์ประสานงานอาชีวศึกษาไทย-จีน มีสมาชิกหน่วยงาน 135 แห่ง มีสถาบันของจีน 59 แห่ง สถาบันของไทย 46 แห่ง และวิสาหกิจจีนและไทย 30 แห่ง
ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับความร่วมมือด้านอาชีวศึกษา ศูนย์ประสานงานฯมุ่งมั่นจะสร้างสะพานเชื่อมใจประชาชน ระหว่างไทยจีน และประสบความสำเร็จมากมาย เช่นการสร้างแพลตฟอร์มระหว่างประเทศ การกำหนดและรับรองมาตรฐาน ทางสาขาวิชา และหลักสูตรนานาชาติ การกำหนดมาตรฐานภาษาจีนและทักษะวิชาชีพ ทักษะระหว่างไทยจีน และ การแลกเปลี่ยนครู นักศึกษา ระหว่างไทยจีน ซึ่งได้ยกระดับการฝึกอบรม บุคลากรที่มีความสามารถร่วมกัน
สมาชิกของศูนย์ประสานงาน ฯ ได้รับการอนุมัตโครงการระดับมลฑลและระดับชาติ ระดับชาติเป็นจำนวนมาก เช่น โครงการเรือธงความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาระหว่างจีน อาเซียน กว่า 300 โครงการ ของกระทรวงศึกษาธิการจีน โครงการสะพานภาษาจีน ของศูนย์ผลิต และความร่วมมือ ด้านภาษาจีนของกระทรวงศึกษาธิการของจีน โครงการที่มีลักษณะความเป็นสากล และเส้นทางสายไหม โดยทุนการศึกษา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลฉงชิ่ง
ปี 2024 ถือเป็นปีที่มีความสำคัญสำหรับศูนย์ประสานงานฯ ในการสนบัสนุนบริษัท ขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ และดำเนินโครงการบูรณาการการศึกษาระหว่างประเทศ

ศูนย์ประสานงานจะยังส่งเสริม ความร่วมมือที่ใช้มาตรฐานสาขาวิชา หลักสูตร และการเรียนการสอนเป็นฐาน มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและฝึกอบรม ทักษะ เป็นวิธีดำเนินการ โดนเน้นการบูรณาการอุตสาหกรรมกับการศึกษาระหว่างประเทศ ใช้อุตสาหกรรมยอดนิยมของแต่ละประเทศ เป็นจุดเริ่มต้น และ ก่อตั้งวิทยาลัยและวิทยาเขตในต่างประเทส ต่อยอดวิธีการฝึกอบรม และ บุคลากรร่วมกันระหว่างไทยจีน ตลอดจนการขยายธุรกิจ และพัฒนาอุตสาหกรรมต่างประเทศ
ในอนาคต วิทยาลัยฯ จะยังคงใช้ศูนย์ประสานงานฯ เป็นเครื่องมือสำคัญ และมุ่งเน้นในการสร้างแพลตฟอร์มกำหนดมาตรฐาน การฝึกอบรมบุคลากร และสนับสนุนการเปลี่ยนวัฒนธรรม การวิจัย ให้สอดคล้องกับข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ระเบียงการค้าเชื่อมทางบกกับเชื่อมทางทะเลสายใหม่ เขตวงกลมเศรษฐกิจฉงชิ่งเป็นแบบอย่างการเปิดภายนอก เมืองวิทยาศาสตร์ภาคตะวันตก เพื่อสนับสนุนการสร้างระบบกลุ่มอุตสาหกรรม การผลิตสมัยใหม่ ให้ก้าวสู่ระดับโลก
โดยใช้วิทยาลัยอุตสาหกรรม บี วาย ดี ประเทศไทย เป็นศูนย์ฝึก บุคคลากร และเทคนิค ในท้องถิ่น ร่วมกันก่อตั้งวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์เทคโนโลยีไทยจีน นิคมอุตสาหกรรมระยอง นิคมอุสาหดรรมท่าเรือฉงชิ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตบุคคลากรที่มีความสามารถด้านอุปกรณ์การผลิตด้านอัจฉริยะ วัตถุขั้นสูง ระบบโลจิสติกสมัยใหม่
ประเทศจีนและเมืองฉงชิ่ง ให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยน ความร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซี่ยน เป็นอย่างมาก เนื่องจากไทยเป็นประเทศสำคัญในอาเซี่ยน และเป็นประเทศในโครงการระบบระเบียงการค้าเชื่อมทางบกและทางทะเลสายไหม ดังนั้นไทยถึงเป็นพื้นที่นำร่องความร่วมมือด้านอาชีวศึกษา ระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ครูที่มาร่วมอบรมผ่านโครงการเส้นทางสายไหม ณ ศูนย์ประสานงานฯ เป็นตัวแทนคณะครู ได้แบ่งปันประสบการณ์ ครูจินดา หัวหน้าสาขายานยนต์ไฟฟ้า วิทยาลัย อีเทค บอกว่า การอบรมครั้งนี้เป็นการอบรมที่ทรงคุณค่าและประทับใจ ตลอดระยเวลาการอบรม ได้เรียนเทคนิคและความรู้ใหม่ๆทันสมัย และเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการทำงานและพัฒนาตัวเองในอนาคต วิทยากร บุคคลากร ของวิทยาลัยวิศวกรรมฉงชิ่ง มีความสามารถและเชี่ยวชาญ เนื้อหามีความเข้มข้น และครอบคลุมตรงตามความต้องการ การจัดอบรมเป็นไปอย่างสะดวก เอื้อต่อการเรียนรู้
การมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ กับผู้เข้าร่วมอบรมจากหลายสถาบันทั้งไทยและจีน ได้เรียนรู้มุมมองใหม่ สร้างเครือข่าย ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนจากหลายวัฒนธรรม
การเข้าถึงเทคโลโนยีใหม่ ๆ การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่ศูนย์ประสานงาน ได้สนับสนุนวิทยาลัยอีเทค และการจัดตั้งวิทยาลัยอีเทค และศูนย์ฝึกอบรมบีวายดีแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาบุคลลากรและสถาบัน ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอาชีวศึกษาของประเทศไทย อย่างยั่งยืน
นักเรียนไทยที่ได้รับทุนการศึกษา บอกว่า การมาเรียนที่นี่ไม่เพียงพัฒนาทักษะวิชาชีพเท่านั้น แต่สภาพแวดล้อมยังสามารถพัฒนาทักษะอื่นๆอย่างรอบด้าน และที่ผ่านมาได้รับรางวัลเกี่ยวกับทักษะภาษาจีน และ รางวันเกี่ยวกับการประกวดฝีมือแรงงาน
ด้านอุษา มีชารี กรรมการสมาคมฯ และ อุปนายกฝ่ายสิทธิ์ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ย้ำว่า เป็นโอกาสดีที่สื่อมวลชนจากประเทศไทยได้มาเยี่ยม และขอบคุณที่ทางวิทยาลัยฯ ได้ดูแลนักเรียนจากประเทศไทยเป็นอย่างดี และหวังว่าทางวิทยาลัย และประเทศจีน จะยังสนับสนุน สร้างโอกาสให้เด็กไทย ได้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนแบบนี้อย่างต่อเนื่อง
สื่อมวลชนจากประเทศไทย ตั้งคำถามคณะผู้บริหารวิทยาลัยฯ เกี่ยวกับการเรียนการสอน
ผู้บริหารระบุว่า การเรียนการสอน มีการใช้ยุทธศาสตร์นำทาง ซึ่งจะสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยร่วมมือกับวิสาหกิจจีน ออกแบบหลักสูตรกับภาคอุตสาหกรรมจากหลายประเทศ ในรูปแบบเดียวกันกับการสร้างศูนย์ประสานงานอาชีวศึกษาไทย-จีน โดยการเรียนการสอนจะมุ่งสู่ ความต้องการของวิสาหกิจ และผลิตบุคคลากรที่มีความรู้สามารถ ป้อนเข้าสู่บริษัทหรือภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการ โดยสรุปคือ วิทยาลัยทำการเรียนการสอน โดยมียุทธศาสตร์นำทาง และความร่วมมือกับอุตสาหกรรม และเน้นการผสมผสานทางภาษาและทักษะวิชาชีพ
ส่วนการสมัครเพื่อรับทุนการศึกษา ผู้มีสิทธิ์ได้รับทุน จะต้องสมัครตามประกาศ จากนั้นผู้ผ่านคัดเลือกจะได้รับการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งจะวัดความรู้ความสามารถด้านภาษาจีน ประเมินพฤติกรรม บุคลิกภาพ รวมถึงด้านจิตวิทยา เมื่อผลการประเมินผ่าน ทางวิทยาลัย ฯจะแจ้งส่งหนังสือแจ้งผลการคัดเลือก โดยหลักสูตรการเรียนการสอนจะใช้แบบ 1+2 คือ ปีแรกจะเรียนที่ประเทศไทย เน้นทักษะ และวิชาชีพพื้นฐาน และ 2 ปีหลัง จะเรียนที่ประเทศจีน ซึ่งจะเน้นทักษะต่างๆตามหลักสูตรที่กำหนดร่วมกัน
เขียนโดย : อัฟนัน อับดุลเลาะ