สรุปสถานการณ์สื่อ ประจำวันที่ 1-31 มค. 64

คุกคามสื่อ        

7 ม.ค. 64               กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ ทำลายกล้องและอุปกรณ์ของสื่อ พร้อมตะโกนว่า “CNN sucks!” โดยชายคนหนึ่งพยายามใช้ไม้ตีไปที่อุปกรณ์ดังกล่า  USA TODAY ระบุถึงดังกล่าวไม่ใช่ของ#CNNแต่เป็นของ#AP 

ที่มา: @journo_christal , @jaspercolt   https://twitter.com/yarmfaojor/status/1346986248297017345?s=21

7 ม.ค. 64               จากประเด็น ม็อบสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ก่อความรุนแรงที่รัฐสภาของสหรัฐฯ จนทำให้ Twitter ระงับบัญชีทรัมป์ชั่วคราวเพราะเขาโพสต์แนวส่งเสริมสนับสนุนม็อบ   นอกจากนี้Facebook และ YouTube ก็ลบวิดีโอของทรัมป์ที่พูดเชิงสนับสนุนม็อบเช่นกัน ในวิดีโอเขาพูดว่า ผู้ชุมนุมยังคงอยู่ในความสงบ แม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกเข้าไปในอาคารจนต้องทำการอพยพคนออกมาหมดก็ตาม ทรัมป์ยังบอกให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน และบอกด้วยว่า ""เรารักคุณ พวกคุณพิเศษมาก""    โดยทาง Facebook ระบุเหตุผลที่ลบว่า เป็นเนื้อหาเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง มากกว่าจะช่วยแก้ปัญหา ส่วน YouTube บอกว่าเนื้อหาดังกล่าวละเมิดนโยบายโดยกล่าวหาว่ามีการฉ้อโกงอย่างกว้างขวางหรือข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯในปี 2563  ตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯที่ผ่านมา ทรัมป์ใช้โซเชียลมีเดียเป็นกระบอกเสียงเสมอว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ผิดพลาด ฉ้อโกง และถูกขโมยไปจากคนบางกลุ่ม แม้หน่วยงานไซเบอร์,หน่วยงานระดับสูงจะบอกว่าการเลือกตั้งสหรัฐฯครั้งนี้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ตาม

ที่มา - TechCrunch" https://www.blognone.com/node/120409

19 ม.ค. 64             ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา แย่งไมค์นักข่าวช่อง 34 อมรินทร์ทีวีนาย นภัส ประณีตพลกรัง พร้อมกับทุบหลังผลักหน้าอก พร้อมตะโกนใส่ “ขออนุญาตผมหรือยัง ถ้าขืนถ่ายจะฟ้อง” ด้านสื่อพยายามอธิบายมาทำข่าวตามหน้าที่เพราะป่าไม้จังหวัดเข้าตรวจสอบไม้ตะเคียนที่ศาลข้างบ้านลุงพล โดยระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังอ่านข้อร้องเรียนให้ลุงพลฟัง  นาย นภัส ประณีตพลกรัง ผู้สื่อข่าวช่องอมรินทร์ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.เฉลิมชัย นวลบัตร ร้อยเวรสอบสวนสภ.กกตูม เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ที่ทำร้ายร่างกายขณะที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ ตอนที่ผู้อำนวยการป่าไม้กำลังชี้แจงข้อร้องเรียนเรื่องไม้ตะเคียน..

ที่มา  : https://mgronline.com/local/detail/9640000005337

20 ม.ค. 2564        นายไชย์พล วิภา ได้เปิดใจ กรณีกระทบกระทั่งกับสื่อที่มาทำข่าวว่า "ผมทำผิดก็พร้อมขอโทษ แต่มีที่มาที่ไป ที่เกิดเหตุแบบนั้น ขอยืนยันว่า ไม่ได้บอกว่าจะงดสัมภาษณ์สื่อ ไม่ใช่ เพราะสื่อหลักก็ยังคงทำหน้าที่ ต่อไป ภาพเมื่อวานนั้นหากผมทำผิดก็พร้อมจะขอโทษ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2016435

ธุรกิจสื่อ

4 ม.ค. 2564           บริษัท บางกอกโพสต์ จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ Bangkok Post, เว็บไซต์ Post Today, นิตยสาร Forbes Thailand และนิตยสาร elle ประกาศโครงการร่วมใจจากองค์กรโดยการสมัครใจเกษียณอายุก่อนกำหนด ปี 2564 (Early Retirement) ทั้งนี้ พนักงานที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน โดยจ่ายชดเชยสูงสุด 400 วัน  สำหรับประกาศดังกล่าวซึ่งลงนามโดย นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอกโพสต์ จำกัด (มหาชน) มีการระบุข้อความว่า

“บริษัท บางกอกโพสต์ จำกัด (มหาชน) กำลังจะเปลี่ยนแปลง และกำลังก้าวสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ถ้าคุณพร้อมจะไปกับเรา คุณมีข้อผูกพัน หรือ Commitment ที่ต้องทำดังนี้ พร้อมทำงานหนักขึ้น พร้อมสนับสนุนการทำงานในทิศทางใหม่ของบริษัทฯ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปิดรับระบบการทำงานใหม่ หยุดการทำงานแบบไซโล พร้อมทำงานเป็นทีมหลากแผนก อดทนเสียสละ และทุ่มเทเพื่อจุดหมายร่วมกัน หากคุณไม่พร้อมที่จะเดินไปกับเราในเส้นทางใหม่ เราขอขอบคุณที่คุณเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฯ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

พนักงานที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ที่ได้รับการอนุมัติจากบริษัทฯ จะมีผลในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2564 และรับค่าชดเชยพร้อมเงินค่าจ้างเดือนสุดท้ายผ่านระบบการจ่ายเงินเดือนในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564

ที่มา : https://positioningmag.com/1312970

22 ม.ค. 2564        กูเกิลขู่ปิดบริการค้นหาที่ออสเตรเลีย แต่ยอมจ่ายเงินให้สำนักข่าวในฝรั่งเศส   ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีอย่างกูเกิล (Google) ถูกต่อรองให้ต้องจ่ายเงินแก่ผู้ผลิตเนื้อหา ข้อมูล ข่าวสาร โดยตอนนี้ยอมจ่ายให้ที่ฝรั่งเศส แต่ยังต่อรองและขู่ปิดบริการค้นหาที่ออสเตรเลีย โดยสื่อระดับโลก และสำนักข่าวในต่างประเทศกำลังบีบกูเกิล หลังจากที่กูเกิลสร้างธุรกิจได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยบริการหลากหลายโดยเฉพาะจุดเริ่มต้นจากบริการค้นหาข้อมูล จากคนสร้างสรรค์ข้อมูล เนื้อหา สำนักข่าวทั่วโลก

ที่มา : รอยเตอร์" https://www.thairath.co.th/lifestyle/tech/2017881?utm_source=insider&utm_medium=web_push&utm_campaign=tech-lifestyle_220121_goo_2016508_1530&webPushId=MjQwMjQ=

สวัสดิภาพ สวัสดิการ      

12 ม.ค. 64             นายฐากูร บุนปาน รองประธานมติชน อดีต บก.-เอ็มดี วัย 59 ปีเสียชีวิต ด้วยโรคมะเร็ง ได้เข้ารับหน้าที่รองประธานกรรมการบริษัทในปี 2562 นายฐากูรเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการบุกเบิกและพัฒนาเครือมติชน ทั้งมติชน ข่าวสด และประชาชาติ จนเป็นสื่อและกิจการสื่อที่สังคมให้ความเชื่อมั่นเชื่อถือ ทั้งยุคสิ่งพิมพ์กระทั่งก้าวสู่ยุคออนไลน์ และให้ความสำคัญกับการมุ่งทิศทางออนไลน์ของสื่อในเครืออย่างมาก

ที่มา : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2525372

ความเคลื่อนไหวสื่อมวลชน

11 ม.ค. 64             เฟซบุ๊ก “เขวี้ยงรีโมท” ซึ่งเป็นเพจวิจารณ์วงการโทรทัศน์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวว่าผู้บริหารระดับสูงของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งย่านถนนวิภาวดีรังสิต เปิดพื้นที่ให้อดีตทีมข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งย่านถนนบางนา-ตราด ที่ก่อนหน้านี้ ซื้อกิจการสถานีโทรทัศน์ย่านซอยแบริ่ง ถนนสุขุมวิทไม่สำเร็จ เข้าร่วมผลิตข่าวกับสถานีนี้ เรื่องดังกล่าวสร้างความปั่นป่วนให้กับทีมข่าวชุดเก่า และยืนยันว่าจะไม่ร่วมทีม และจะกลับไปร่วมงานกับช่องเก่านั้น

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวจากสถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ระบุว่า ก่อนหน้านี้ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสถานี ได้แจ้งเป็นการภายในว่า จะให้กลุ่มนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เจ้าของสำนักข่าวท็อปนิวส์ และอดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี มาผลิตรายการข่าวให้กับช่อง สร้างความไม่พอใจให้กับกองบรรณาธิการข่าวพีพีทีวี ซึ่งทีมงานส่วนใหญ่มาจากสายของนายเสถียร วิริยะพรรณพงศา บรรณาธิการบริหาร ที่เคยเป็นศิษย์เก่าเนชั่นมาก่อน โดยส่วนหนึ่งเห็นว่า หากนายสนธิญาณจะเข้ามาจริง ก็จะลาออกแล้วกลับไปร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ซึ่งมี นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กลับมาเป็นผู้อำนวยการใหญ่เนชั่นทีวีก่อนหน้านี้

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีผู้ใหญ่รายหนึ่งเข้ามาพูดคุยกับ นพ.ปราเสริฐ เพื่อร้องขอให้นายสนธิญาณเข้ามาผลิตรายการข่าวให้กับช่อง ซึ่ง นพ.ปราเสริฐ ก็ไม่ขัดข้อง เพราะที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี ประสบภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงต้องการผู้ผลิตรายการหน้าใหม่ๆ เข้ามาช่วยเรื่องเรตติ้งและรายได้ให้กับสถานี แต่พบว่า เดิม นพ.ปราเสริฐ จะให้นายสนธิญาณเข้ามาผลิตข่าวเป็นบางช่วงเวลา แต่กลับพบว่า นายสนธิญาณ ต้องการเข้ามาบริหารงานข่าวแบบเต็มตัว นพ.ปราเสริฐ จึงตัดสินใจแจ้งข่าวถึงเรื่องดังกล่าวเป็นการภายใน

สำหรับสำนักข่าวท็อปนิวส์ เดิมนายสนธิญาณจะจัดตั้งเป็นสถานีโทรทัศน์ท็อปทีวี ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการสถานีโทรทัศน์นิว 18 กับ นางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด แต่การเจรจาล้มเหลว จึงได้เปลี่ยนมาเป็นสำนักข่าวแทน โดยผู้ประกาศข่าวหลักของช่อง ประกอบด้วย น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสันติสุข มะโรงศรี, นายกนก รัตน์วงศ์สกุล, นายธีระ ธัญไพบูลย์, นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์, นายสถาพร เกื้อสกุล, น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย และ นายวุฒินันท์ นาฮิม นอกจากนี้ ยังได้รับผู้ประกาศข่าวเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง แต่จำนวนไม่มาก ขณะที่ทีมงานปัจจุบันมีอยู่ราว 40 คน และได้เปิดรับสมัครผู้ร่วมงานเพิ่มเติมหลายอัตรา อาทิ บรรณาธิการข่าว ผู้สื่อข่าว รีไรเตอร์ ช่างภาพข่าว ผู้ช่วยช่างภาพข่าว โคโปรดิวเซอร์รายการข่าว เจ้าหน้าที่ตัดต่อรายการข่าว และเจ้าหน้าที่กราฟิก

ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000002734

11 ม.ค. 64             “วุฒินันท์ นาฮิม” ผู้ประกาศเนชั่นทีวีตัดสินใจยื่นใบลาออกเป็นรายที่ 8 ร่วมงานกับ “กนก รัตน์วงศ์สกุล” หลังทำงานให้ช่องมานาน 9 ปี อดีตโปรดิวเซอร์รายการ LINE กนก ยังเป็นผู้ลงเสียงให้กับรายการ LINE กนก เป็นระยะเวลานานถึง 7 ปี   สำหรับผู้ประกาศข่าวเนชั่นทีวีที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสันติสุข มะโรงศรี, นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์, นายสถาพร เกื้อสกุล, น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย, นายกนก รัตน์วงศ์สกุล ที่ลาออกพร้อมนางลักขณา รัตน์วงศ์สกุล ภรรยา และนายธีระ ธัญไพบูลย์ ซึ่งได้ลาออกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา เพื่อไปร่วมงานกับนายสนธิญาณ และนายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย ก่อตั้งสำนักข่าวแห่งใหม่ และพยายามหาช่องทางออกอากาศ

ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000002533

13 ม.ค. 64             น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าวสำนักข่าวท็อปนิวส์ ที่ก่อตั้งโดยนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Anchalee Paireerak ระบุว่า ทีมงานของตนจะออกอากาศรายการข่าววันที่ 1 ก.พ.ทุกแพลตฟอร์ม ได้แก่ ยูทูป เฟซบุ๊ก ดาวเทียมช่อง 77 และวิทยุ เริ่มด้วยรายการนายสันติสุข มะโรงศรี ตามมาด้วยนายธีระ ธัญไพบูลย์ นายกนก รัตน์วงศ์สกุล นายสถาพร เกื้อสกุล และ น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย ส่วนตนจัดเที่ยงและเย็น โดยจะไม่ไปร่วมงานที่สถานีโทรทัศน์นิว 18 และสถานีโทรทัศน์พีพีทีวี ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด สำนักข่าวท็อปนิวส์ได้เผยแพร่แบนเนอร์ ระบุข้อความว่า “ติดตามชมเราได้ในทุกแพลตฟอร์ม เราอยู่ล้อมรอบตัวคุณ เราอยู่ในมือคุณ” พร้อมช่องทางออกอากาศสำนักข่าวท็อปนิวส์ ทั้งโซเชียลมีเดีย และกล่องรับสัญญาณดาวเทียมพีเอสไอ อินโฟแซท ช่อง 77 โดยพบว่าผู้ประกาศข่าวจากซ้ายไปขวา ได้แก่ นายศิรวิฑย์ ชัยเกษม, น.ส.ตะวันรุ่ง เตี๋ยประดิษฐ์, นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์, นายธีระ ธัญไพบูลย์, นายกนก รัตน์วงศ์สกุล, นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสันติสุข มะโรงศรี, นายสถาพร เกื้อสกุล, น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย, น.ส.อมร แต้อุดมกุล และนายวุฒินันท์ นาฮิม รวม 12 คน  ทั้งนี้ พบว่านายศิรวิฑย์ และ น.ส.ตะวันรุ่ง เคยเป็นอดีตผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์นิว 18 ส่วน น.ส.อมร เป็นผู้ดำเนินรายการฟรีแลนซ์ให้กับหลายช่อง หลายคลื่นวิทยุ รวมถึงช่องนิว 18

ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000003403

15 ม.ค. 64             นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักกลยุทธ์องค์กร บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ผมได้ยื่นใบลาออกจากเป็นพนักงาน ของอสมท. จริง จะมีผล ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 64 เรียกว่า เป็นการจำใจจาก อสมท. ที่รักและผูกพันธ์ยิ่งก็ไม่ผิดนัก  เหตุจากการที่ถูกโยกย้าย(ที่ไม่มีคำอธิบายใดๆ) จากงานด้านวิทยุที่ถนัด และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์กับผู้ฟังและผู้คนในสังคม ให้ไปทำงานด้านเอกสาร งานเลขานุการ และต่อมาก็ให้ไปทำด้านกลยุทธ์องค์กรซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวผมเองไม่มีความรู้ ความถนัดแม้แต่น้อยนิด การได้ไปอยู่ในจุดที่ไม่อาจใช้พลัง ความสามารถที่มีอยู่  อีกทั้งงานใหม่ที่ได้รับมอบหมาย กลับจะสร้างภาระให้เพื่อนร่วมงานมาที่ต้องมาสอนงานกันใหม่ และยังเป็นการถ่วงรั้งความเจริญขององค์เสียเปล่าๆ  คือเหตุแห่งการจำใจจาก สำหรับรายการวิทยุที่คลื่นความคิด Fm 96.5 เวลานี้ยังคงมีอยู่ (หากไม่ถูกเปลี่ยนแปลง) 

ที่มา : https://www.matichon.co.th/social/news_2531641

29 มกราคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย  รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กรณีนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อดีตผู้บริหารเครือเนชั่น นำรายการจากท็อปนิวส์มาออกอากาศในบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ว่า ไม่มีอะไร เท่าที่เขารายงานตนมา เป็นเพียงการเจรจาธุรกิจการค้าในการทำธุรกิจตามปกติ  ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเป็นข้อสรุปชัดเจน เป็นการดำเนินการของคณะกรรมการผังรายงานที่มีผู้บริหารของเขาเป็นประธาน ยืนยันว่ารัฐบาล และตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผลักดัน มีแต่ข่าวมาได้ยินว่าเกิดขึ้น เป็นเรื่องปกติทางการค้าของบริษัท อสมท ส่วนข่าวที่ออกมาส่งผลกระทบกับบริษัท อสมท หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่กระทบ เป็นเรื่องปกติทางการค้า หากไม่ได้เป็นเรื่องปกติทางการค้าถึงจะมีผลกระทบ ทั้งนี้ ในการทำธุรกิจ คำว่าสื่อหมายถึงทุกคน หรือเฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งคำว่าสื่อของตนหมายภาพรวม สื่อก็คือสื่อ หรือเฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง สื่อมวลชนย่อมเป็นกลาง ไม่มีข้าง

เมื่อถามว่า ในเรื่องการเจรจาธุรกิจ หากตกลงกันได้ รายการของนายสนธิญาณ จะสามารถเข้ามาอยู่ในช่อง 9 ได้ใช่หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า เป็นเรื่องตามปกติทั่วไป ช่อง 9 ก็มีรายการข่าวประเภทนี้ ซึ่งเป็นสื่อสารมวลชนตามปกติ สื่อก็คือสื่อ ในการทำธุรกิจย่อมเป็นเรื่องปกติ สามารถทำรายการได้ตามปกติ ตนไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ว่าสื่อคนไหนเป็นกลางหรือไม่อย่างไร ใครจะทำธุรกิจ ธุรกรรม ในแง่สื่อสารมวลชน ถือเป็นเรื่องปกติ จะทำสัญญาหรือไม่อย่างไรกับบริษัท อสมท หรือกรมประชาสัมพันธ์ ก็ถือเป็นเป็นเรื่องปกติทางการค้า และเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับตนจริงๆ ตนไม่รู้เรื่องแม้แต่นิดเดียว ตนตรงไปตรงมา             

ที่มา  : https://www.dailynews.co.th/politics/822150

28 ม.ค. 64             เอ็นแกดเจ็ตรายงานว่า เฟซบุ๊ก แพล็ตฟอร์มโซเชียลยอดนิยมเตรียมปรับปรุงระบบข่าวสาร (News Feeds) ให้แสดงเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองลดลง โดยอ้างได้รับเสียงร้องเรียนจากผู้ใช้ว่ากระตุ้นให้ผู้คนถกเถียงและทะเลาะเบาะแว้งกัน  นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก กล่าวระหว่างประชุมไตรมาสต่อบรรดาผู้ถือหุ้น ว่าผู้ใช้ไม่ต้องการให้การเมืองและการทะเลาะเบาะแว้งกัน มาทำลายประสบการณ์การใช้งาน ทางเฟซบุ๊กจึงจะยุติการใช้งานอัลกอริทึม ที่แนะนำข่าวสารจากกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมืองอย่างถาวร รายงานระบุว่า การดำเนินการลักษณะนี้ของเฟซบุ๊ก เกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ช่วงการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐอเมริกาครั้งที่ผ่านมา แต่นายซักเคอร์เบิร์ก ระบุ คราวนี้เฟซบุ๊กจะขยายการดำเนินการแบบนี้ไปยังทั่วโลกด้วย ไม่ใช่แต่เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น   แต่นายซักเคอร์เบิร์ก ย้ำว่า เฟซบุ๊กยังมุ่งมั่นที่จะเป็นพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี และจะไม่ยับยั้งการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ยืนยันจะดำเนินการจัดการหากได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใช้คนอื่น

ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/economic/456720

สื่อกับโควิด-19

6 ม.ค. 64               องค์การ Press Emblem Campaign (PEC) ซึ่งตั้งอยู่ในนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ระบุวานนี้ว่า มีผู้สื่อข่าวทั่วโลกเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อย่างน้อย 602 ราย ในช่วง 10 เดือนของปีก่อน หรือโดยเฉลี่ย 60 รายต่อเดือน หรือ 2 รายต่อวัน นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563  โดยPEC ระบุว่า การเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวเป็นเรื่องที่ป้องกันได้ และผู้ทำงานสายงานข่าวควรเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ส่วนครอบครัวของผู้เสียชีวิตควรได้รับการช่วยเหลือทางการเงิน  เบลส เล็มเพน เลขาธิการใหญ่ของ PEC ระบุว่า ผู้ทำงานสายงานข่าวหลายตำแหน่ง เช่น ผู้สื่อข่าวภาคสนาม ผู้สื่อข่าวอิสระ และช่างภาพ ไม่สามารถทำงานที่บ้านได้ ทำให้พวกเขาเสี่ยงติดเชื้อเป็นพิเศษ  ประเทศแถบลาตินอเมริกามีผู้สื่อข่าวเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่าครึ่งหนึ่ง (303 ราย) โดยเปรูมีผู้สื่อข่าวเสียชีวิตมากที่สุด (93 ราย) รองลงมาเป็นบราซิล (55 ราย) และเอกวาดอร์ (42 ราย) ส่วนประเทศอื่นๆ ที่มีผู้สื่อข่าวเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูง ได้แก่ อินเดีย (53 ราย) เม็กซิโก (45 ราย) บังกลาเทศ (41 ราย) อิตาลี (37 ราย) และสหรัฐอเมริกา (31 ราย)

ที่มา THE STANDARD TEAM  อ้างอิง: สำนักข่าวซินหัว

https://thestandard.co/over-600-journalists-around-world-died-from-covid-19/?fbclid=IwAR0rEGGgoVYo3AqGSlr7CbPgIHFH1K963KpUPmOnliCP9Av6cMJ_cCWBzkg

8 ม.ค. 64               กรณีรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ออกมาจัดรายการอยู่บริเวณลานจอดรถถ่ายทอดสด ข้างอาคารมาลีนนท์ 2 เนื่องจากอยู่ระหว่างการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ หลังพบว่ามีพนักงานชายปฏิบัติงานในห้องกราฟิก ชั้น 6 ติดเชื้อโควิด-19 โดยมีการปิดตึกทำความสะอาดตั้งแต่ 22.00 น.ของวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอาคารมาลีนนท์ 2 ขณะนี้ถูกปิดห้ามให้คนเข้าเด็ดขาด  และล่าสุด สำนักทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท บีอีซีเวิลด์ ได้ออกประกาศด่วน (ครั้งที่ 2) ลงวันที่ 8 มกราคม 2564 ระบุข้อความว่า ตามที่พบว่ามีพนักงานติดเชื้อโควิด และบริษัทฯ จำเป็นต้องปิดอาคาร M2 เพื่อทำความสะอาดทันทีในขณะนี้ ขอแจ้งเพิ่มเติม ห้ามไม่ให้พนักงานที่ปฏิบัติงาน ณ อาคาร M2 (ตึกข่าว) เข้าพื้นที่อาคาร M1 โดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อไวรัส อนึ่ง สำหรับพนักงานที่ไม่มีความจำเป็น / หรือพนักงานที่ปฏิบัติ ณ อาคาร M1 ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาให้พนักงาน WFH ในวันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564 ด้วย"

ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000001560

13 ม.ค. 64             วิกฤติโควิด-19 ในสหรัฐ นักข่าวมากประสบการณ์ของ CNN ร่ำไห้ออกอากาศขณะรายงานผลกระทบจากไวรัสในแอลเอ ซารา ซิดเนอร์ นักข่าวสำนักข่าว CNN กำลังรายงานสถานการณ์ไวรัสโรคโควิด-19 จากลอสแองเจลิสที่เธอประจำอยู่  กับ อาไลซิน คาเมโรตา ผู้ประกาศและพิธีกรช่วง New Day  เกิดความรู้สึกหดหู่จนสะกดกลั้นไม่อยู่ ร่ำไห้ออกมาต่อหน้าผู้ชมทางบ้านและพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมอารมณ์เพื่อทำหน้าที่ต่อไป 

ซิดเนอร์ นำเสนอสกู๊ปตีแผ่ว่าโควิด-19 กระทบชุมชนคนผิวดำและชนเชื้อสายสเปนมากที่สุดในแคลิฟอร์เนีย ตอนหนึ่ง เป็นการสัมภาษณ์ คูเลียนา คีเมเนซ เซสมา สตรีที่สูญเสียแม่และพ่อเลี้ยงในเวลาห่างกัน 11 วัน และครอบครัวเซสมาต้องจัดงานศพบนลานจอดรถ เมื่อถามว่าติดเชื้อทั้งหมดกี่คน เซสมากล่าวว่า ทุกคนในบ้าน และหญิงสาวปิดท้ายว่า ""อย่าปล่อยให้เป็นคุณ หากคุณรักคนที่คุณรักอย่างแท้จริง อย่าปล่อยให้เกิดกับคุณ ระมัดระวังตัวให้มากเป็นพิเศษ นักข่าวซีเอ็นเอ็นสุดกลั้น  ร่ำไห้ขณะรายงานสดวิกฤติโควิด-19 ในลอสแอนเจลิส

ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/foreign/455019?adz=

22 ม.ค. 64             ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี พบเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ เอ็นบีที เป็นผู้ประกาศข่าวชาย 1 ราย ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยขณะนี้ ทางกรมประชาสัมพันธ์ แจ้งให้กรมควบคุมโรคเข้ามาสอบสวนโรคแล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น  นายกรกช ยอดไชย ประกาศข่าวชายคนดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงกรณีมีข่าวว่า ตนติดเชื้อโควิดจากช่างแต่งหน้า ซึ่งแต่งหน้าให้กับ “ดีเจมะตูม” โดยระบุว่า ช่างแต่งหน้ารายดังกล่าวไม่ได้ติดเชื้อโควิด ขอโทษทุกคน

ที่มา : https://www.prachachat.net/marketing/news-599427

23 ม.ค. 64             โลกอาลัย! 'แลร์รี คิง' เจ้าพ่อทอล์กโชว์ เสียชีวิต จากโควิด-19 ด้วยวัย 87 ปี  และเสียชีวิตลงในเช้าวันเสาร์ที่ 23 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยสื่อต่างประเทศ ได้รายงานว่า "แลร์รี คิง" ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อช่วงปลายปี 2563 จากนั้นได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล Cedars-Sinai Medical Center ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ บัญชีทวิตเตอร์ @kingsthings ก็ได้โพสต์ข้อความอาลัยและแจ้งข่าวถึงการจากไปของผู้ดำเนินรายการระดับตำนานผู้นี้ด้วย ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/918907