สงขลา – สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้วงการสื่อสารมวลชนไทย โดยร่วมกับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และคณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จัดกิจกรรม "ห้องเรียนสาธารณะภาคใต้" ขึ้นระหว่างวันที่ ๒๐-๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๘ ณ โรงแรมเซ็นทารา หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีนักศึกษาสาขาวารสารศาสตร์และนิเทศศาสตร์และนักศึกษาที่สนใจ จาก ๔ สถาบันอุดมศึกษาในภาคใต้ จำนวน ๓๓ คน เข้าร่วม ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยฟาตอนี มหาวิทยาลัยสงขลานครรินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยทักษิณ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
กิจกรรมดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการเสริมสร้างทักษะการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อเพื่อการพัฒนาวิชาชีพและส่งเสริมจริยธรรมสื่อ" ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญที่สมาคมนักข่าวฯ และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เล็งเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้าง "ภูมิคุ้มกัน" ให้บุคลากรในวงการสื่อ ตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงผู้ประกอบวิชาชีพ โดยเน้นการพัฒนาทักษะการรู้เท่าทันสื่อ การตรวจสอบข้อมูล (Fact Checking) ควบคู่กับการปลูกฝังคุณค่าทางวารสารศาสตร์ จริยธรรม และคุณธรรมในการประกอบวิชาชีพ เพื่อยกระดับวงการสื่อและสร้างระบบนิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์
การอบรมเชิงปฏิบัติการตลอด ๓ วัน ๒ คืน นักศึกษาได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีประสบการณ์ตรงในแวดวงสื่อสารมวลชน ได้ลงมือปฏิบัติจริงในการผลิตชิ้นงานผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Tik Tok พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างเครือข่ายกับเพื่อนต่างสถาบัน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการทำงานร่วมกันในอนาคต

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภีรกาญจน์ ไค่นุ่นนา คณบดีคณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า “การปรับตัวเป็นทักษะสำคัญสำหรับผู้จบการศึกษาด้านนิเทศศาสตร์ในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว AI เป็นพลังขับเคลื่อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และส่งผลกระทบต่อวงการวารสารศาสตร์ในขณะที่ข้อมูลเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่แหล่งที่มามักไม่เป็นที่รู้จัก ทำให้เกิดข้อมูลเท็จและข่าวปลอมเพิ่มขึ้น ในขณะที่จำนวนนักข่าวแบบดั้งเดิมที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและให้บริบทของข่าวกำลังลดลง สวนทางกับปริมาณข้อมูลที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ (ซึ่งอาจมาจาก AI) ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามวิชาชีพสื่อสารมวลชนหลักยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับประกันความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลท่วมท้น และสมาคมนักข่าวฯ มีบทบาทในการชี้นำ ให้ความรู้ และกำกับดูแลนักข่าว

นายอัฟนัน อับดุลเลาะ ประธานโครงการห้องเรียนสาธารณะภาคใต้ เน้นย้ำว่า แม้คนรุ่นใหม่จำนวนมากจะไม่ได้มุ่งเป้าเป็นนักข่าวแบบดั้งเดิม แต่หันไปสนใจการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ยูทูบเบอร์ หรือติ๊กต็อกเกอร์มากขึ้น หลักการสำคัญของการทำข่าวยังคงเป็น "กุญแจ" พื้นฐานที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความสำเร็จในเส้นทางอาชีพยุคดิจิทัล ปัจจุบันสถานการณ์ในแวดวงสื่อและการศึกษา โดยเฉพาะนิเทศศาสตร์ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก
"ต่อให้เราอยากจะเป็นติ๊กต็อกเกอร์ อยากจะเป็นยูทูบเบอร์ หรืออยากจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ หลักการสำคัญมันคงไม่ได้ทิ้งไปจากการทำข่าว" นายอัฟนันกล่าว พร้อมอธิบายว่าทักษะเหล่านี้ เช่น การเลือกประเด็น การเขียน การใช้ข้อมูลอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ชิ้นงานและตัวตนของผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น "พวกเนี้ยมันสำคัญแล้วก็มันจะทำให้ชิ้นงานของเรา มันจะทำให้ตัวตนของเรา การที่เราเป็นติ๊กต็อกเกอร์ การเป็นยูทูบเบอร์เนี่ย มันจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น"

ประธานโครงการฯ ยังได้กล่าวขอบคุณสำหรับคำแนะนำและข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วม ซึ่งจะนำไปปรับปรุงกิจกรรมในส่วนที่ต้องการต่อไป เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง
โครงการห้องเรียนสาธารณะมีการจัดกิจกรรมใน ๔ ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ (๘-๑๐ มิ.ย. ร่วมกับ ม.เชียงใหม่), ภาคใต้ (๒๐-๒๒ มิ.ย. ร่วมกับ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี), และภาคกลาง (๑๘-๒๐ ก.ค. ร่วมกับ ม.บูรพา) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรสื่อ, สร้างเครือข่ายความร่วมมือ, ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการรู้เท่าทันสื่อ และขับเคลื่อนการสร้างพื้นที่ข้อมูลข่าวสารที่ดีมีคุณภาพ เพื่อนำไปสู่ระบบนิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ในสังคมไทย.