สภาทนายความรับช่วยเหลือ “สมโภชน์ โตรักษา” กรณีถูก อบจ.สมุทรปราการ ฟ้องหมิ่นฯ

สภาทนายความรับช่วยเหลือ “สมโภชน์ โตรักษา” กรณีถูก อบจ.สมุทรปราการ ฟ้องหมิ่นฯ

เมื่อเวลา11.00 น. ที่สภาทนายความ นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย นายเชษฐ์ สุขสมเกษม รองเลขาธิการสมาคมนักข่าวฯ พร้อมด้วยนายสมโภชน์ โตรักษา พิธีกรผู้ประกาศ สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เข้าพบนายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ เพื่อขอรับความช่วยเหลือจัดหาทนายความในชั้นสอบสวนและในชั้นศาลแก่นายสมโภชน์ ภายหลังจากนายสมโภชน์ ถูกอบจ.สุทรปราการ ที่มีนายชมน์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกฯ อบจ. แจ้งความต่อ สภอ.เมืองสมุทรปราการ ใคคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีเสนอสารคดีข่าวติดตามการทุจริตงานก่อสร้างวัดแห่งหนึ่ง และตำรวจออกหมายเรียกนายสมโภชน์ไปแจ้งข้อหา

นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า สภาทนายความได้ทำบันทึกความร่วมมือด้านอรรถคดีและวิชาการกับสองสมาคม โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นคดีที่สื่อมวลชนถูกคุกคามข่มขู่เกี่ยวละเมิดสิทธิเสรีภาพในการเสนอข่าว โดยจะจัดทนายความให้สื่อมวลชนเพื่อคลายความวิตกกังวลจะได้ปฏิบัติหน้าที่ขุดคุ้ยความจริงมาเสนอแก่ประชาชนต่อไปโดยปราศจากความกลัว กรณีนายสมโภชน์ถือว่าเป็นข่าวเจาะในประเด็นทุจริตซึ่งถือว่าต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา สภาทนายความรับข้อเท็จจริงจากสมาคมไว้แล้วและจัดคณะทำงานมีนายสุชาติ ชมกุล ประธานสภาทนายความภาค1 เป็นหัวหน้านำทนายความพานายสมโภชน์ไปพบพนักงานสอบสวนแล้ว

ด้านนายสมโภชน์ กล่าวว่า คดีนี้มี อบจ.สมุทรปราการ กล่าวหาว่าตนหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีรายการ ”คอลัมน์หมายเลข 7 ต้านทุจริตตามติดกลโกง” ซึ่งเปิดโปงเรื่องการพบพิรุธเงินอุดหนุนวัดในจังหวัดสมุทรปราการ รวม 9 ตอน เพราะเป็นเรื่องที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการใช้จ่ายเงินไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ และมีการก่อสร้างอาคารล่าช้าโดยไม่มีการเรียกค่าปรับผู้รับเหมา ไม่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้เกี่ยวข้อง แต่ตนกลับถูกแจ้งความดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าตนเสนอข่าวสารคดีโดยสุจริตไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ข่าวนี้กลับเป็นผลดีแก่วัด เพราะเมื่อข่าวเผยแพร่ออกไป ก็เริ่มมีการก่อสร้างอาคารตามกำหนด แม้การแจ้งความเป็นสิทธิ์ของผู้ร้องทุกข์ แต่ตนก็ต้องต่อสู้คดีเพื่อปกป้องวิชาชีพสื่อในฐานะที่ตนเป็นสื่อมวลชนคนหนึ่ง

“ผมยืนยันว่าการนำเสนอข่าวของผมในเรื่องนี้ เป็นไปตามข้อเท็จจริงและหลักฐานไม่ได้มีเจตนาที่จะไปใส่ร้ายใครแม้แต่น้อย ซึ่งขั้นตอนการทำงานจะต้องผ่านการตรวจสอบก่อนจะนำเสนอออกไป และมั่นใจว่าการเสนอข่าวเรื่องเงินสนับสนุนวัดเป็นไปด้วยความสุจริต และเพื่อประโยชน์สาธารณะ สิ่งที่ผมทำเป็นการปกป้องวิชาชีพสื่อมวลชน” นายสมโภชน์ กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากการแถลงข่าว นายประดิษฐ์และนายวิสุทธิ์ ได้มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจนายสมโภชน์และกล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจแก่สื่อมวลชนที่กล้าหาญขุดคุ้ยความจริง และถือว่าเป็นคดีแรกที่สื่อมวลชนมาขอใช้สิทธิ์ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างสภาทนายความกับองค์กรสื่อ โดยจะมีการติดตามช่วยเหลือเรื่องนี้ต่อไปจนถึงที่สุด

ด้านนายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า ทางสภาทนายความมีความยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือนายสมโภชน์ และพร้อมที่จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อคอยให้ความช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ตามบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมวิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาทนายความ