ระเบียบชมรมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์อาวุโส  สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

หมวด 1  ความทั่วไป

ข้อ 1.เพื่อให้การบริหารของคณะกรรมการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยบรรลุวัตถุประสงค์ตาม

ข้อบังคับของสมาคมจึงเห็นควรตราระเบียบชมรมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์อาวุโส สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยฉบับนี้ไว้ ณ วันที่  11  เมษายน 2554 โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ข้อ 2. ชมรมนี้มีชื่อว่า “ชมรมผู้สื่อข่าวอาวุโสแห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย”ใช้ชื่อย่อว่า “ชขส.”เรียกชื่อในภาษาอังกฤษว่า “Senior Journalists Club, the Thai Journalists Association”

                ข้อ 3 สำนักงานของชมรมตั้งอยู่ที่ ที่ทำการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เลขที่ 538/1 ถนนสามเสน ดุสิต กทม.10300

หมวด 2  วัตถุประสงค์

               ข้อ 4   ชมรมนี้มีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

               4.1 ให้คำปรึกษา รับฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับสื่อสารมวลชน

               4.2 ดูแลสวัสดิการ และสวัสดิภาพของผู้สื่อข่าวอาวุโสให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและเป็นระบบ

หมวด 3  สมาชิกภาพ

                ข้อ 5   สมาชิกของชมรมต้องปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

โดยอนุโลม และต้องปฏิบัติตนเป็นผู้มีเกียรติและรักษาศักดิ์ศรีของสมาคม และชมรมต้องรักษาผลประโยชน์และเกียรติศักดิ์ของสมาคมและชมรม

                ข้อ 6.  สมาชิกชมรมแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

สมาชิกสามัญ ได้แก่ สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยที่มีอายุเกินกว่า 60 ปีขึ้นไป

สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ บุคคลทั่วไปที่เห็นด้วยและมีความประสงค์จะร่วมกิจกรรมกับชมรม

สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะกรรมการบริหารชมรมมีมติเชิญเป็นสมาชิกด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์

หมวด 4  สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกชมรม

               ข้อ 7   สมาชิกชมรมทุกประเภทมีสิทธิ ดังนี้

                (1) ร่วมกิจกรรมของชมรมในส่วนที่มิได้จำกัดให้เฉพาะสามัญสมาชิกเท่านั้น

                (2) เสนอความเห็นเกี่ยวกับกิจการของชมรมต่อคณะกรรมการชมรมดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่อกิจการของชมรม

หรือมวลสมาชิกของชมรมตามที่เห็นสมควร

               (3)ใช้สถานที่ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเพื่อพบปะหรือสื่อข่าวโดยมีสิทธิพาบุคคลภายนอกเข้ามาในสถานที่ไม่เกินเดือนละ 4 ครั้งๆ ละไม่เกิน 2 คน บุคคลเหล่านี้ต้องลงนามในสมุดเยี่ยมและสมาชิกผู้พามาต้องรับผิดชอบในความเสียหายอันอาจจะเกิดขึ้นจากบุคคลภายนอกซึ่งตนเป็นผู้นำเข้ามาในสถานที่ด้วย

               (4)ใช้สถานที่ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในการประกอบกิจกรรมต่างๆอันไม่เป็นการขัดต่อวัตถุประสงค์ของสมาคม โดยชำระค่าใช้บริการตามที่คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยกำหนด ในประกาศว่าด้วยการใช้บริการสถานที่

สิทธิในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชมรม สิทธิในการได้รับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารชมรม สิทธิในการเข้าชื่อร่วมกับสามัญสมาชิกไม่น้อยกว่า 20 คนเพื่อขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญ สิทธิในการตรวจสอบคณะกรรมการบริหารชมรมสิทธิในการเข้าร่วมการอบรมทางวิชาการที่จัดโดยชมรม และสิทธิพิเศษอื่นๆตามที่คณะกรรมการบริหารกำหนด ให้เป็นสิทธิของสามัญสมาชิกเท่านั้น

หมวด 5  การดำรงสมาชิกภาพ

                ข้อ 8   บุคคลที่ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของชมรมให้ยื่นใบสมัครต่อเลขานุการชมรม ตามแบบที่กำหนดไว้

แล้วให้เลขานุการชมรมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารชมรมเพื่อให้ความเห็นชอบ

               ข้อ 9   คณะกรรมการบริหารชมรมต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นสมาชิกชมรมโดยเคร่งครัดเช่นเดียวกับ

แนวทางกำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หมวด 5 ข้อ 14การรับสมาชิกสามัญ

ต้องเป็นไปด้วยความเห็นชอบไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมคณะกรรมการบริหารชมรม และคณะกรรมการบริหารสมาคม

นักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

               ข้อ 10. เมื่อคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์มีมติรับเป็นสมาชิกแล้ว ให้เลขานุการชมรม แจ้งให้ผู้

สมัครและมวลสมาชิกชมรมทราบ

               ข้อ 11. สมาชิกสามัญและสมาชิกกิตติมศักดิ์ ถือเป็นสมาชิกตลอดชีพ

           สมาชิกวิสามัญดำรงฐานะสมาชิกภาพเป็นเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่คณะกรรมการบริหารชมรมประกาศรับรองความเป็นสมาชิก

                ข้อ 12. สมาชิกสามัญและสมาชิกกิตติมศักดิ์ ไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมและค่าบำรุง

                           สมาชิกวิสามัญ ชำระค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงตามที่คณะกรรมการบริหารชมรมกำหนด

หมวด 6  การสิ้นสุดสมาชิกภาพ

               ข้อ 13. การสิ้นสุดสมาชิกภาพของสามัญสมาชิกและวิสามัญสมาชิกย่อมสิ้นสุดลงเมื่อ

                (1) ตาย

               (2) ลาออก

               (3) ถูกลบชื่อออกจากทะเบียน

               (4) สมาชิกวิสามัญที่ขาดชำระค่าบำรุงเกินกว่า 1 เดือนภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี

                ข้อ 14. สมาชิกภาพของสมาชิกประเภทสมาชิกกิตติมศักดิ์ ย่อมสิ้นสุดลงด้วย

               (1) ตาย

                (2) ลาออก

                (3) ถูกลบชื่อออกจากทะเบียน

                 การจะถูกลบชื่อออกจากทะเบียนจะมีขึ้น เนื่องจากสมาชิกนั้น

                ก. ประพฤติตนเป็นที่เสื่อมเสียต่อเกียรติของชมรมและสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ

                 ข. ประพฤติผิดศีลธรรมอันดีเป็นที่ไม่พึงปรารถนาของสังคม

                ค. ไม่ปฏิบัติตนตามระเบียบของชมรม เยี่ยงสมาชิกควรปฏิบัติ

                ง. ถูกคณะกรรมการบริหารชมรม ไม่น้อยกว่า 3 คนหรือสมาชิกชมรมไม่น้อยกว่า 10 คน เสนอญัตติเป็นหนังสือให้

คณะกรรมการบริหารชมรมพิจารณา และคณะกรรมการบริหารพิจารณาญัตตินั้นแล้วเห็นชอบด้วยเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการฯ ที่เข้าประชุม

หมวด 7  คณะกรรมการบริหารชมรม

               ข้อ 15. ให้คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยรับรองคณะกรรมการบริหารชมรมจำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 9 คน ที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของชมรม

                ข้อ.16 คณะกรรมการบริหารชมรมประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งอย่างน้อย ดังนี้

                (1) ประธาน

                (2) รองประธาน

                (3) เลขานุการ

                (4) เหรัญญิก

                (5) กรรมการตำแหน่งอื่นๆ ตามที่เห็นสมควร

                ข้อ 17. กรรมการบริหารของชมรมต้องเป็นสามัญสมาชิกเท่านั้น

                ข้อ 18. นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเป็นที่ปรึกษาชมรมโดยตำแหน่ง คณะกรรมการบริหารชมรมมีสิทธิแต่งตั้งบุคคลอื่นที่เหมาะสมเป็นที่ปรึกษาได้อีกไม่เกิน 10 คน ที่ปรึกษาชมรมมีสิทธิเสนอความเห็นโดยการริเริ่มของตนเองหรือเมื่อคณะกรรมการบริหารชมรมร้องขอแต่ไม่มีสิทธิออกเสียง

               ข้อ 19.การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการบริหารให้เป็นไปตามข้อบังคับของสมาคมนักข่าวฯโดยอนุโลม

               ข้อ 20. คณะกรรมการบริหารชมรมมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้

               (1) บริหารกิจการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และระเบียบของชมรม

               (2) แต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อดำเนินกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดของชมรมตามที่เห็นสมควร

               (3) ช่วยเหลือติดต่อให้ความสะดวกแก่สมาชิกในการปฏิบัติหน้าที่ ตามวัตถุประสงค์ของชมรม

               (4) ดำเนินกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมสมรรถภาพและภราดรภาพอย่างน้อย 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง

                ข้อ 21. คณะกรรมการบริหารอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี เริ่มต้นและสิ้นสุดในวันประชุมใหญ่ประจำปี แต่ต้องไม่เกิน

วันที่ 4 มีนาคม ของทุกปี ในระหว่างที่คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ยังไม่ได้รับตำแหน่งให้คณะกรรมการบริหารชุดเดิมบริหารกิจการไปพรางก่อน

               ข้อ 22. คณะกรรมการบริหารต้องประชุมอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง การประชุมต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อย

กว่ากึ่งหนึ่งจึงถือเป็นองค์ประชุม ให้ประธานชมรมเป็นประธานของที่ประชุม การพิจารณาปัญหาใดๆ ให้ถือเสียงข้างมาก

เป็นเกณฑ์ ถ้าเสียงเท่ากันให้ประธานเป็นผู้ชี้ขาด

               ข้อ 23. คณะอนุกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริหาร มีอำนาจดำเนินกิจการตามที่ได้รับมอบหมาย

อย่างเต็มความสามารถ

               ข้อ24. ประธานชมรมมีหน้าที่อำนวยการบริหารกิจการของชมรม ให้เป็นไปตามข้อบังคับและวัตถุประสงค์ของชมรม

               ข้อ 25. รองประธานมีหน้าที่ทำการแทนประธาน เมื่อประธานไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

               ข้อ 26. เลขานุการมีหน้าที่นัดประชุมกรรมการ นัดประชุมวิสามัญประจำปี นัดประชุมใหญ่สามัญ และนัดประชุม

ทางวิชาการ จดรายงานการประชุม ติดต่อกับสมาชิกและทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ไม่ได้กำหนดไว้ว่าไม่ได้เป็นหน้าที่ของผู้ใด

โดยเฉพาะ

                ข้อ 27. เหรัญญิกมีหน้าที่เก็บรักษาเงินและดูแลการใช้จ่ายเงินตามจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารของชมรม

               ข้อ 28. เงินของชมรมให้ฝากไว้ในธนาคาร และอยู่ในความดูแลของคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือ

พิมพ์แห่งประเทศไทย

               ข้อ 29. การเบิกจ่ายเงินจากธนาคาร ต้องให้ประธานชมรม ลงลายมือชื่อร่วมกับเลขานุการชมรมหรือเหรัญญิกของชมรม

               ข้อ 30. เหรัญญิกของชมรมจะเก็บเงินสดไว้ได้ไม่เกิน 10,000 บาท

                ข้อ 31.เหรัญญิกต้องจัดทำงบแสดงการใช้จ่ายเงินของชมรมเป็นประจำทุกเดือน หรือเมื่อสิ้นสุดโครงการใดโครงการ

หนึ่งที่เป็นกิจกรรมของชมรมเสนอต่อคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยพร้อมทั้งแจ้งให้

สมาชิกชมรมทราบ

               ข้อ 32 รายได้ของชมรมให้มาจาก

  • เงินอุดหนุดจากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
  • เงินสนับสนุนจากการจัดกิจกรรมหาทุนของชมรมที่ไม่ขัดต่อหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

หมวด 8  การเลือกคณะกรรมการบริหาร

               ข้อ 33. ประธานชมรมให้เลือกจากสามัญสมาชิกในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีโดยให้สามัญสมาชิกเสนอชื่อ และ

มีสมาชิกรับรองอย่างน้อย 3 คน โดยวิธีลงคะแนนลับผู้ได้รับคะแนนสูงสุด ถือว่าได้รับเลือกเป็นประธานชมรม ถ้าคะแนนเท่ากันให้ใช้วิธีจับสลากผู้ใดจะดำรงตำแหน่งประธานชมรมติดต่อกันเกินกว่า 2 สมัยไม่ได้

               ให้คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยแต่งตั้งกรรมการหรือสมาชิกสมาคมที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อเป็นกรรมการของชมรม 1 คน

               การเลือกกรรมการบริหารของชมรม ให้สามัญสมาชิกเสนอชื่อผู้ที่สมควรเป็นกรรมการ โดยมีสมาชิกรับรองอย่างน้อย 3 คน และโดยวิธีลงคะแนนลับผู้ได้รับคะแนนสูงสุดตั้งแต่อันดับหนึ่งถึงสาม หรือห้า หรือเจ็ด ถือว่าเป็นผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมการ ถ้าคะแนนเท่ากันให้ใช้วิธีจับสลาก ส่วนผู้ที่ได้รับคะแนนรองลงมา ให้เป็นสำรองกรรมการ ผู้ใดจะดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารชมรมติดต่อกันเกินกว่า 3 สมัยไม่ได้

                ถ้ามีปัญหาในการเลือกตั้งเกิดขึ้น ให้ที่ประชุมใหญ่วินิจฉัย การเลือกประธานและกรรมการบริหารให้ที่ประชุมเลือก

คณะกรรมการดำเนินการเลือกตั้งขึ้นคณะหนึ่ง จำนวนไม่เกิน 3 คนเพื่อดำเนินการเลือกตั้ง ที่ประชุมใหญ่โดยคะแนนเสียง

ข้างมากสามารถกำหนดวิธีเป็นอย่างอื่นได้

               ข้อ 34. ให้คณะกรรมการบริหารที่ได้รับเลือกตั้ง ดำรงตำแหน่งรองประธานและกรรมการฝ่ายต่างๆ ตามข้อ 16 เพื่อ

บริหารงานของชมรมตามวัตถุประสงค์ให้คณะกรรมการบริหารแถลงนโนบายและแผนงานเป็นลายลักษณ์อักษรส่งไปยังสมาชิกชมรมทุกคนภายใน 1 เดือน หลังวันที่ได้รับตำแหน่ง

                ข้อ 35. ถ้าตำแหน่งกรรมการบริหารว่างลง ก่อนถึงคราวออกตามวาระให้สำรองกรรมการที่ได้รับคะแนนรองลงมา

ในคราวเลือกกรรมการบริหารรับตำแหน่งแทนตามลำดับคะแนน ถ้าคะแนนเท่ากันก็ให้ใช้วิธีจับสลาก

               ข้อ 36. คณะกรรมการบริหารชุดที่สิ้นสุดตามวาระจะต้องมอบหมายการงานให้แก่คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ให้

เรียบร้อยภายใน 15 วัน นับแต่วันเลือกคณะกรรมการบริหาร ในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี

                ข้อ 37.การประชุมใหญ่ของชมรมให้ใช้ข้อบังคับของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในหมวดที่ว่า

ด้วยการประชุมใหญ่ โดยอนุโลม

                การประชุมใหญ่สามัญและวิสามัญต้องมีสามัญสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดหรือ

จำนวนไม่น้อยกว่ายี่สิบคน จึงจะเป็นองค์ประชุม

หมวด 9  การเปลี่ยนแปลงระเบียบ

               ข้อ 38. การเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมระเบียบนี้ จะกระทำได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่สามัญสมาชิกของชมรม

และคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์จำนวนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3ให้การรับรอง

หมวด 10  การยุบเลิกชมรม

               ข้อ 39. ชมรมยกเลิกได้โดยที่ประชุมใหญ่สามัญมีมติให้เลิกด้วยเสียงข้างมากแต่ต้องเป็นการประชุมที่มีสามัญสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสามัญสมาชิกทั้งหมด

               ข้อ 40. เมื่อชมรมต้องยุบเลิกให้ทรัพย์สินทั้งหลายของชมรมตกแก่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

หมวด 11 บทเฉพาะกาล

               ข้อ 41. ระเบียบนี้ จะมีผลใช้บังคับก็ต่อเมื่อได้รับการรับรองด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ของคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ประกาศใช้เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2554