"สถาบันการศึกษากับการมีส่วนร่วมพัฒนาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นภาคอีสาน" ว่าด้วย ... วิกฤตวารสารศาสตร์ ทุนท้องถิ่น และพิราบคืนรัง
17 กันยายน ที่ผ่านมา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สถาบันอิสรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดประชุมเครือข่ายนักวิชาการและนักวิชาชีพสื่อมวลชน ครั้งที่ 2/2553 ภายใต้หัวข้อ " สถาบันการศึกษากับการมีส่วนร่วมพัฒนาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ภาคอีสาน" ณ.โรงแรมอุบลรีสอร์ท จ.อุบลราชธานี โดยมีวิทยากรร่วมเสวนา ประกอบด้วย ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ผศ.เมตตา ดีเจริญ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา อาจารย์จักษุ ตะกรุดแก้ว มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม เอกนที วัชรพนมชัย รองประธานเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคอีสาน และสุชัย เจริญมุขยนันท ผู้จัดการสื่อสร้างสุข จ.อุบลราชธานี พร้อมกันนี้ ยังมีตัวแทนนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยในภาคอีสานหลายสถาบัน ร่วมเปิดประเด็นเสวนาอย่างคับคั่ง
"เอกนที" เปิดประเด็นว่า ปัจจุบันหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมีปัญหาเรื่องการอยู่รอด แต่ด้านหนึ่งต้องตอบสนองข้อมูลข่าวสารให้กับสังคม จึงเสมือนเป็นการยืนกันคนละมุม ฉะนั้นแล้ว ฝ่ายวิชาชีพและวิชาการต้องร่วมมือกันเป็นทวิภาคีให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษากับการแนะแนวทางจากฝ่ายวิชาชีพ
"เอกนที" ยอมรับว่า ทุกวันนี้ มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ทั้งการผลิตบัณฑิตและการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาที่ไม่ตอบสนองกับวิชาชีพ เนื่องจากนักศึกษาส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีความสนใจในวิชาชีพหนังสือพิมพ์น้อยลง แต่สนใจงานสื่อสารมวลชนด้านอื่นมากกว่า เช่น สนใจงานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ มากกว่าสนใจการเขียนข่าว การรายงานข่าว หากจะมี ก็จะเป็นเฉพาะบุคคลที่สนใจงานด้านวารสารศาสตร์จริงๆ แต่นักเรียน นักศึกษาที่สนใจก็มีปัญหาในรายละเอียด นั่นก็คือ การจับประเด็นไม่ถูก เขียนข่าวไม่ได้ ไม่นับรวมการไม่ค้นคว้า กระทั่งไม่ชอบอ่านหนังสือ นับเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง
"เอกนที" ยังเห็นว่า นอกจากนี้ จะทำอย่างไรให้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นปรับมาเป็นเชิงธุรกิจให้ได้อย่างเป็นระบบ เนื่องจากทุกวันนี้หนังสือพิมพ์ไม่สามารถปฏิเสธเรื่องทุน หรือเรื่องธุรกิจได้ แต่การเดินบนนถนนสายธุรกิจ ก็ต้องทำควบคู่ไปกับการผลิตเนื้อหาข่าวที่เกิดประโยชน์ ตอบสนองสังคมในท้องถิ่นนั้นๆ ได้
ด้าน "สุชัย" และ "ผศ.เมตตา" เห็นพ้องกันว่า ข้อสังเกตประการหนึ่งขณะนี้ก็คือ แขวงวิชาวารสารศาสตร์ หรือ หนังสือพิมพ์ เสมือนเป็นพลเมืองชั้น 2 ในต่างจังหวัด หรือเป็นศูนย์รวมของเด็กเรียนไม่เก่ง หรือเด็กที่ผิดหวังมาจากสาขาอื่น จึงจำใจเรียนวารสารศาสตร์
ฉะนั้น ประการสำคัญก็คือ จะมีความร่วมมือที่มากขึ้นได้อย่างไร ระหว่างสมาคมวิชาชีพสื่อและอาจารย์ในสถาบันการศึกษา ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษาในสถาบันมีใจรักในงานหนังสือพิมพ์จริง ๆ ขณะที่อาจารย์ผู้สอนก็ต้องรักในอาชีพและวิชาชีพที่ตนเองสอนด้วย เช่นกัน
ดร.เสกสรร เล่าว่า จากการสำรวจและติดตามผล ในสถาบันการศึกษาภาคอีสานหลายแห่ง มีความพยายามในการให้ความรู้เรื่องวารสารศาสตร์กับนักศึกษาอย่างเต็มกำลังเท่าที่จะทำได้ เช่น การจัดสัมมนาให้ความรู้กับนักศึกษา จัดให้มีการทำหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติในท้องถิ่น หรือหลังจากนักศึกษาผ่านการฝึกงานจากวิชาชีพมาแล้ว ก็จัดให้มีการประเมินการฝึกงานของเด็กๆ อีกครั้งหนึ่ง
"สุชัย" และ "ผศ.เมตตา" เสนอเพิ่มเติมว่า ให้สถาบันการศึกษาในท้องถิ่นนั้นๆ เป็นศูนย์กลาง ในกระบวนการเรื่องการจัดทำหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ
"อาจารย์จักษุ" เสนอประเด็นเพิ่มเติมว่า สถาบันการศึกษา ควรผลิตบัณฑิตเพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบัน การผลิตบัณฑิตเข้าสู่ตลาดวิชาชีพลดลงอย่างน่าใจหาย ขณะเดียวกันน่าจะจัดสถานที่ฝึกงานให้นักศึกษาในท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ โดยให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการสื่อข่าวและการรายงานข่าวอย่างเต็มที่
"อาจารย์จักษุ" มองว่า วิกฤตวาสารศาสตร์ยุคปัจจุบัน นักศึกษาอาจไม่ได้เป็นปัญหาเสียทั้งหมด แต่ปัญหาประการหนึ่งน่าจะเป็นหลักสูตร และการเรียนการสอน ที่ไม่สอดคล้องกัน
จากผลวิจัยพบว่า นักศึกษาวารสารศาสตร์ในช่วงหลายปีมานี้ เข้าสู่วิชาชีพได้มากกว่านักศึกษาวิทยุโทรทัศน์ หรือนักศึกษาที่เรียนวิชาประชาสัมพันธ์ ฉะนั้น หากฝ่ายวิชาชีพและวิชาการดีไซน์หลักสูตรดีๆ อย่างครบถ้วน อาจเป็นทางออกหนึ่งที่น่าสนใจ
ที่สำคัญคือ การดึงวิชาชีพเข้ามาสู่สถาบันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เช่น ให้เด็กฝึกงานตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง เป็นต้น เพราะหนังสือพิมพ์ในชุมชนท้องถิ่น ก็มีปริมาณเพียงพอที่จะรับนักศึกษาเข้าฝึกงานได้
"อาจารย์จักษุ" เล่าว่า ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จัดฝึกอบรมพิราบน้อยของสถาบันตนเอง หรือ การฝึกอบรมนักศึกษา ก่อนก้าวเข้าสู่วิชาชีพข่าวจริงๆ เช่นเดียวกับโมเดลการจัดพิราบน้อยของสมาคมนักข่าวฯ
ฉะนั้น การนำศิษย์เก่าที่อยู่ในสนามข่าวจริง หรือ เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยต่างๆ กลับมาเป็นวิทยากรให้กลับมหาวิทยาลัย เป็นสิ่งที่หลายมหาวิทยาลัยทำได้
มากกว่านั้น หนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติในสถาบันการศึกษาต้องไม่อยู่ในรายวิชาใดวิชาหนึ่ง แต่ต้องเกิดจากความศรัทธาของนักศึกษา ที่จะเข้ามาร่วมทำกับมหาวิทยาลัย สถาบันหรือคณะก็มีส่วนช่วยด้วยการจัดกิจกรรมให้กับนักศึกษาในหัวข้อที่น่าสนใจ
"ผมเห็นว่า ทำอย่างไรก็ได้ ผลักดันเด็กส่วนกลางให้กลับท้องถิ่น หรือเรียกว่า พิราบคืนรัง มาช่วยกันสร้างความรู้ความเข้าใจในท้องถิ่น ซึ่งเท่ากับเป็นการสร้างคนในท้องถิ่นไปในตัวด้วย " "อาจารย์จักษุ" ให้เหตุผลย้อนหลัง
"เอกนที" เสริมว่า เห็นด้วยที่จะให้นักศึกษาฝึกงานตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีต้นๆ ให้อยู่กับสถานที่จริง อยู่กับความเป็นจริงในสนามข่าว ขณะที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ก็ต้องสร้างตัวเองให้มีความพร้อมในการทำงานให้กับนักศึกษาที่เข้ามาฝึกงาน มากกว่านั้นอาจมีค่าตอบแทนกับนักศึกษาที่เหมาะสมกับการทำข่าว หรือรายงานข่าว เพื่อให้นักศึกษาสัมผัสและซึมซับราวกับได้ทำงานข่าวจริงๆ นี่คือระบบที่ต้องการคนบริหารทรัพย์ ดูแลตลาดทำหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ
นอกจากนี้ ในวงเสวนา ยังมีการถกเถียงและหารือกันในหลายประเด็น อาทิเช่น การประชุมครั้งต่อไป น่าจะมีนักศึกษามารับฟัง แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นด้วยโดยตรง หรือ การรณรงค์สร้างภาพลักษณ์วารสารศาตร์และการอ่านหนังสือให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มีการโปรโมตหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ เช่น การโปรโมตจัดกิจกรรมผ่านเคเบิ้ลทีวีวีท้องถิ่น และการจัดกิจกรรมศึกษาดูงาน หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักศึกษาและอาจารย์ในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เป็นต้น
นอกจากนี้ วงเสวนายังเสนอความเห็นเพิ่มเติ่มว่า จะทำอย่างไรที่สถาบันการศึกษาจะแนะแนวคุณภาพเรื่องวารสารศาสตร์อย่างเป็นระบบให้กับนักศึกษา สร้างแรงจูงใจการฝึกงานในท้องถิ่น หรือให้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมีตะกร้าข่าวกลาง สามารถหยิบนำมาคุยหรือเผยแพร่ผ่านวิทยุหรือโทรทัศน์ท้องถิ่น รวมถึงการการประกวดข่าวท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ
#
กำหนดการ
ประชุมเครือข่ายนักวิชาการและนักวิชาชีพสื่อมวลชน ครั้งที่ ๑ / ๒๕๕๓
หัวข้อ “สถาบันการศึกษากับการมีส่วนร่วมพัฒนาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ภาคอีสาน”
วันศุกร์ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๓ เวลา ๐๘.๓o - ๑๒.oo น.
ณ โรงแรมอุบลบุรี รีสอร์ท จังหวัดอุบลราชธานี
โดย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ร่วมกับ สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย
ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)
_______________________________________________________________________________
๐๘.๓๐ - ๐๙.๐๐ น. ลงทะเบียน
๐๙.๐๐ - ๐๙.๑๐ น. กล่าวแนะนำโครงการ
๐๙.๑๐ - ๑๒.๐๐ น. ประชุม หัวข้อ “สถาบันการศึกษากับการมีส่วนร่วมพัฒนาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ภาคอีสาน”
วิทยากร นำการประชุม
ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ผศ.เมตตา ดีเจริญ
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
อาจารย์จักษุ ตะกรุดแก้ว
มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม
คุณเอกนที วัชรพนมชัย
รองประธานเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ภาคอีสาน
คุณสุชัย เจริญมุขยนันท
ผู้จัดการสื่อสร้างสุข อุบลราชธานี
๑๒.๐๐ น. จบการประชุม
๑๒.๐๐ น. รับประทานอาหารกลางวัน