แถลงการณ์ร่วม “การคุกคามองค์กรสื่อมวลชนด้วยอาวุธสงคราม”

 

แถลงการณ์ร่วม

การคุมคามองค์กรสื่อมวลชนด้วยอาวุธสงคราม

ในช่วงไม่ถึงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีผู้ลอบวาง ปาและยิงระเบิดตามสถานที่ต่างๆทั้งที่เป็นหน่วยงานของรัฐ และพื้นที่สาธารณะกว่า 20 ครั้ง รวมทั้งเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2553 ในห้วงเวลาที่ห่างกันไม่ถึง 3 ชั่วโมง มีผู้ขว้างระเบิดใส่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และยิงลูกระเบิดชนิด เอ็ม 79 ใส่อาคารของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย

จากหลักฐานและพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่งชี้ว่า ผู้กระทำการดังกล่าวไม่เพียงแต่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความสับสน วุ่นวายเท่านั้น แต่มุ่งหวังให้เกิดการบาดเจ็บ ล้มตายด้วย เพราะมีการเลือกเป้าหมายที่เป็นตัวบุคคล

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนอันประกอบไปด้วย สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ข้างต้นว่า อาจเป็นชนวนเหตุให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลายจนนำไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นนองเลือดได้ จึงมีความเห็นร่วมกันดังต่อไปนี้

1.แม้สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 จะเป็นสื่อของรัฐ และอาจถูกมองจากฝ่ายตรงข้ามว่า เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล เช่นเดียวกับสื่อของกลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองที่ถูกมองในลักษณะเดียวกัน แต่การใช้อาวุธสงครามโจมตีสถานีโทรทัศน์ทั้งสองแห่งเป็นการกระทำไม่อาจอาจยอมรับได้ เพราะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและความเห็นที่แตกต่างกัน ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา

การกระทำดังกล่าวของผู้ก่อการจึงมุ่งหวังที่สร้างความวุ่นวายและความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ดังนั้น จึงอาจจะขยายขอบเขตโจมตีไปยังองค์กรสื่อมวลชนทั่วไปซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในการรายงานข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้านท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้

2.สื่อมวลชนไม่ว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติงานภาคสนามหรือองค์กรสื่อไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใคร และพยายามทำหน้าที่ในการรายงานข่าวและความคิดเห็นอย่างรอบด้านที่สุด แต่ก็ไม่อาจทำให้ทุกฝ่าย ซึ่งมีความเห็นทางการเมืองแตกต่างกันพึงพอใจได้ทั้งหมด

การนำเสนอข่าวหรือการแสดงความคิดเห็นใดๆที่ประชาชนเห็นว่า ไม่ถูกต้องหรือละเมิดจริยธรรม ก็สามารถใช้กลไกทางกฎหมายหรือกลไกทางวิชาชีพได้แก่ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติและสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ตรวจสอบการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนนั้นๆได้

3.องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ขอประณามการกระทำอันเป็นการคุกคามสังคมและสื่อมวลชนด้วยอาวุธสงคราม และขอให้เพื่อนร่วมวิชาชีพหนักแน่นในการทำหน้าที่รายงานข่าวสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงนี้อย่างถูกต้อง รอบด้าน และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ตามกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับแรงกดดันใดๆ

4.ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้เพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชน พร้อมทั้งเร่งสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว

สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

28 มีนาคม 2553