แถลงการณ์ร่วมองค์กรภาคีเครือข่ายติดตามเฝ้า ระวังการล้มกระวนการสรรหา กสทช.

แถลงการณ์ร่วมองค์กรภาคีเครือข่ายติดตามเฝ้า ระวังการล้มกระวนการสรรหา กสทช.

 

ตามที่มีกระแสข่าวการเคลื่อนไหวโดยบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับการสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. ออกมาอย่างต่อเนื่องนับจากหลังการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน จนอาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ในสาระสำคัญของเรื่องนี้ นั้น ภาคีเครือข่ายติดตามเฝ้าระวังการล้มกระบวนการสรรหา กสทช. ซึ่งประกอบด้วยองค์กรสื่อ และองค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งมีรายนามท้ายแถลงการณ์ฉบับนี้มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความเข้าใจที่ ถูกต้องแก่ประชาชนทุกคนซึ่งต้องถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียต่อความสำเร็จในการ จัดตั้งคณะกรรมการ กสทช. กล่าวคือ

กสทช. เป็นคณะกรรมการที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ บัญญัติให้มีขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการจัดสรรคลื่น และออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่เป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติเพื่อ ประชาชนทุกคนมีสิทธิได้ใช้ประโยชน์ในทรัพยากรนี้อย่างเท่าเทียมกัน ได้แก่ การออกใบอนุญาตให้แก่สถานีวิทยุคลื่นหลัก สถานีวิทยุชุมชน สถานีวิทยุธุรกิจทุกกลุ่ม  การออกใบอนุญาตให้แก่สถานีโทรทัศน์ช่องหลักที่รับชมกันอยู่ในปัจจุบัน เคเบิ้ลทีวีและทีวีดาวเทียม รวมไปถึงการออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G/4G ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจและเฝ้าติดตามกันมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อคำนวณมูลค่าของทรัพย์สินที่สำคัญของชาติดังกล่าวที่ กสทช.ต้องจะเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดสรรและกำกับดูแลให้การใช้ประโยชน์เป็น ไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายแล้ว จะมีมูลค่าสูงนับเป็นหลายแสนล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าของใบอนุญาตในระบบการให้สัมปทานที่มีมาในอดีต

 

จากการสังเกตและเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวในทุกภาคส่วน องค์กรภาคีเครือข่าย พบว่า มีความพยายามที่จะทำให้กระบวนการสรรหากสทช. สะดุดหยุดลงด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งที่ชอบด้วยกฎหมาย  และไม่ชอบด้วยตามกฎหมาย ตั้งแต่การรับเรื่องราวจากบุคคลที่ทำงานให้แก่พรรคการเมืองหนึ่งซึ่งไม่ใช่ ผู้เสียหายหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการสรรหา เพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือทำการสืบสวนให้ผู้เกี่ยว ข้องเกิดความเกรงกลัว การหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาต่อองค์กรสื่อ และองค์กรภาคประชาสังคมว่า เป็นองค์กรเถื่อน ที่ไม่มีสถานภาพรับรองทางกฎหมาย การข่มขู่คุกคามผู้แทนองค์กรสื่อให้เกิดความหวาดกลัวว่าจะมีการดำเนินการให้ ได้รับโทษทางอาญา การให้ข้อมูลเท็จโดยมีเจตนาทำลายความเชื่อมั่นเชื่อถือที่สังคมมีต่อองค์กร ภาคประชาสังคมและต่อสภาวิชาชีพสื่อ โดยมุ่งหวังทำลายองค์กรสื่อที่ตั้งขึ้นตามเจตนารมณ์ของกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ รับรองสิทธิเสรีภาพในการรวมตัวกันเพื่อสร้างมาตรฐานจริยธรรมของวิชาชีพสื่อ มวลชนให้เกิดขึ้นในสังคม ไปจนกระทั่งถึงการให้ข้อมูลในทางเปิดเผย และในทางลับ ทั้งที่ไม่มีหน้าที่ไปยังหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ วุฒิสภา นายกรัฐมนตรี และศาลปกครอง โดยมีเจตนาที่จะชี้นำหรือจูงใจให้เกิดการระงับยับยั้งไม่ให้กระบวนการสรรหา เดินหน้าต่อไปตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น และส่อเจตนาไปถึงเพื่อล้มกระบวนการสรรหาทั้งหมดให้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้อำนาจในการคัดเลือก กสทช. ตกไปอยู่แก่คณะรัฐมนตรีในที่สุด

 

ภาคีองค์กรเครือข่ายขอเรียนว่า กสทช.ที่ได้มาตามขั้นตอนและกระบวนการที่กำหนดไว้ในกฎหมายอย่างถูกต้องครบ ถ้วน ที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกอย่างโปร่งใสจากวุฒิสภาเท่านั้น จึงจะเป็น กสทช. ที่สง่างาม สมควรได้รับการยกย่องให้เกียรติในฐานะบุคคลสำคัญที่ได้รับมอบหมายมาอย่างถูก ต้องให้ดูแลรักษาทรัพย์สมบัติสำคัญของประเทศชาติ และขอเรียกร้อง ดังนี้

 

1. ขอให้วุฒิสภาดำเนินการเลือกคณะกรรมการกสทช.ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

2. ขอ ให้ประชาชนทำความเข้าใจ ติดตาม ตรวจสอบ กระบวนการคัดเลือกกสทช.ในทุกขั้นตอน

 

 

สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

สมาคม นักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ

สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

สหพันธ์วิทยุชุมชนแห่งชาติ

สหพันธ์ องค์กรผู้บริโภค

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน

สภาคนพิการทุก ประเภทแห่งประเทศไทย

สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย

สมาคมผู้ประกอบ วิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทย

๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๔