แบบฟอร์มใบสมัคร และการขอสวัสดิการสมาชิก

แบบฟอร์มใบสมัคร และการขอสวัสดิการสมาชิก

 

ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม ใบสมัครสมาชิก สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (pdf)

ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม ใบสมัครสมาชิก สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (doc)


doc ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม แบบขอรับสวัสดิการสมาชิก สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

 

 

 

 

 

ข้อบังคับ
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
พุทธศักราช ๒๕๔๓ ว่าด้วยเรื่อง สมาชิกสมาคม

หมวด  1   ข้อความทั่วไป

ข้อ  1.  สมาคมนี้มีชื่อว่า   "สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย"   ใช้ชื่อย่อว่า   "สขนท."   เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า  " Thai  Journalists  Association"   และใช้ชื่อย่อภาษาอังกฤษว่า   "TJA"

ข้อ 2  เครื่องหมายของสมาคมเป็นรูปนกพิราบและปากกา  มีข้อความชื่อสมาคมเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษล้อม

ข้อ 3  สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่  ณ  อาคารเลขที่   538/1   ถนนสามเสน   แขวงดุสิต   เขตดุสิต  กรุงเทพมหานคร

ข้อ  4  ข้อบังคับนี้แก้ไขเพิ่มเติมเมื่อวันที่  28  กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2543    และให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่เจ้าพนักงานรับจดทะเบียนเป็นต้นไป

 

หมวด 2  วัตถุประสงค์

ข้อ 5.  สมาคมนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

(1)  ปกป้องคุ้มครองสมาชิกของสมาคมผู้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ

(2)  ส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์ให้มีเสรีภาพในการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร  การพิมพ์  การโฆษณา  และการแสดงออก  ส่งเสริมสิทธิการรับรู้ของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย

(3)  ผดุงไว้ซึ่งมาตรฐานอันดีงามของสมาชิกโดยให้ยึดจริยธรรมแห่งวิชาชีพและความรับผิดชอบเป็นหลักปฏิบัติอันสำคัญยิ่ง

(4)  ส่งเสริมสวัสดิการและความสามัคคีระหว่างสมาชิก   ส่งเสริมการทำตนให้เป็นประโยชน์  ส่งเสริมการบำเพ็ญสาธารณกุศล  ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างเพื่อนร่วมวิชาชีพทั้งภายในและนอกประเทศ

(5)  ส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างชนในชาติ  ความเข้า ใจอันดีระหว่างประเทศ  เพื่อยังสันติสุข  ภราดรภาพ  ความเคารพในสิทธิมนุษยชน  ตลอดจนความอยู่ดีกินดีให้เกิดขึ้นในโลก

 

หมวด 3                  ประเภทและคุณสมบัติของสมาชิก

ข้อ 6.  สมาชิกแบ่งออกเป็น  2 ประเภท   คือ

ก. สมาชิกสามัญ  ได้แก่   ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์มาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี  มีตำแหน่งและรายได้ประจำ  ทำงานอยู่ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ที่เสนอช่าวสารเป็นสาระสำคัญและพิมพ์ออกจำหน่ายต่อสาธารณชนเป็นประจำสม่ำเสมอ

ข.  วิสามัญสมาชิก  ได้แก่

(1)  ผู้เคยมีคุณสมบัติตามข้อ  ก.  และได้พ้นตำแหน่งหน้าที่มาแล้ว  โดยมิได้ถูกลงโทษด้วยการภาคฑัณฑ์  ให้ออก  ปลดออกหรือไล่ออก  หรือถูกวินิจฉัยโดยองค์กรวิชาชีพว่าประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

(2)  ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนในฝ่ายข่าวของสถานีวิทยุกระจายเสียงสถานีวิทยุโทรทัศน์  หรือสื่อสารมวลชนประเภทอื่นที่เสนอข่าวต่อสาธารณชนสม่ำเสมอตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร  และมีคุณสมบัติอื่นเหมือนสมาชิกสามัญโดยอนุโลม

 

(แก้ไขเพิ่มเติม 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557)

(3) สมาชิกใหม่ ที่ได้รับความเห็นชอบและได้แสดงตัวต่อคณะกรรมการบริหาร ให้คงสถานะไว้เพียง 2 ปี เมื่อสมาชิกดังกล่าวได้แสดงตัวต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี และได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากที่ประชุมฯ แล้วจึงจะมีสถานะเป็นสามัญสมาชิก

 

หมวด 4  หน้าที่และสิทธิของสมาชิก

ข้อ 7.  สมาชิกมีหน้าที่รักษาผลประโยชน์และเกียรติคุณของสมาคมกับต้องสนับสนุนช่วยเหลือกิจกรรมของสมาคม  ชำระค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมอื่น ตามที่คณะกรรมการบริหารสมาคมกำหนด  ปฏิบัติตามหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพและปฏิบัติตามข้อบังคับหรือระเบียบของสมาคมทุกประการ

ข้อ 8.  สมาชิกมีสิ ทธิ

(1)  เข้าร่วมประชุมและใช้สถานที่ของสมาคมตามระเบียบที่สมาคมกำหนด

(2)  ประดับเครื่องหมายของสมาคมในโอกาสอันควร

(3)  เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมของสมาคม

(4)  ตรวจดูรายงานการประชุมของคณะกรรมการบริหารและบัญชีงบดุลของสมาคม

(5)  ได้รับสวัสดิการและบริการต่าง ๆ  ที่สมาคมจัดขึ้น  ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบที่สมาคมกำหนด

 

ข้อ 9.  สามัญสมาชิกมีสิทธิ

(1)  เลือกและรับเลือกตั้งเป็นนายกและกรรมการบริหารสมาคม

(2)  สมาชิกที่ได้ชำระค่าบำรุงติดต่อกันไม่ต่ำกว่าสามปี  เข้าชื่อกันจำนวนไม่น้อยกว่าห้าสิบคนให้คณะกรรมการบริหารจัดประชุมใหญ่วิสามัญโดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อคณะกรรมการบริหาร  และในหนังสือนั้นจะต้องระบุด้วยว่าจะให้ประชุมพิจารณาญัตติเรื่องใด  เมื่อคณะกรรมการบริหารได้รับหนังสือแล้ว  ให้ตรวจสอบความถูกถ้วน  แล้วดำเนินการตามคำร้องขอภายในกำหนดสามสิบวัน นับแต่วันได้รับคำร้องขอ

หมวด 5  สมาชิกภาพ

ข้อ 10.  ผู้ประสงค์สมัครเป็นสมาชิกให้ยื่นใบสมัครตามแบบของสมาคมต่อเลขาธิการ

เมื่อเลขาธิการได้รับใบสมัครแล้วให้ตรวจสอบคุณสมบัติและความถูกถ้วนก่อนเสนอต่อคณะกรรมการบริหารพิจารณาในการประชุมคราวถัดไป

หากเลขาธิการเห็นว่าไม่สมควรรับผู้ใดเข้าเป็นสมาชิกให้แจ้งให้ผู้นั้นทราบโดยไม่ชักช้า  และให้ผู้นั้นมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อนายกสมาคมภายในกำหนดเวลาสิบห้าวัน  นับแต่วันที่ได้รับคำปฏิเสธและให้นายกสมาคมนำเรื่องเข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการบริหารในคราวถัดไป

มติในการรับสมาชิกจะต้องเป็นเอกฉันท์

เมื่อคณะกรรมการบริหารมีมติรับผู้ใดเป็นสมาชิกแล้ว    ให้ผู้นั้นไปแสดง ตัวต่อที่ประชุมใหญ่ของสมาคมตาม  ข้อ  29  พร้อมทั้งนำเงินค่าสมัครและค่าบำรุงมาชำระให้เสร็จสิ้น  จึงจะมีผลให้ผู้นั้นเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์

ข้อ 11.  สมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลงเมื่อ

(1)  ตาย หรือสาบสูญตามคำสั่งของศาล

(2)  ลาออก  โดยยื่นหนังสือลาออกต่อเลขาธิการ  และเลขาธิการได้รับหนังสือนั้นแล้ว

(3)  เป็นบุคคลไร้ความสามารถ  เสมือนไร้ความสามารถ  หรือเป็นบุคคลล้มละลายตามคำสั่งศาล

(4)  ถูกลบชื่อออกจากทะเบียน  ตามข้อ 12

ข้อ 12.  สมาชิกอาจถูกลบชื่อออกจากทะเบียนด้วยเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้

(1)  ละเมิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพ  และสมาคมนี้  หรือสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน  จนปรากฎความผิดชัดแจ้งปราศจากข้อสงสัยแล้ว

(2)  ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก  เว้นแต่เหตุที่ให้ต้องจำคุกนั้นเป็นความผิดอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับวิชาชีพโดยชอบ  ความผิดลหุโทษ  หรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท

(3)  ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสมาคม  หรือประพฤติตนเป็นที่เสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพหรือกระทำการให้แกตสามัคคีในหมู่เพื่อร่วมวิชาชีพ

(4)  ไม่ชำระค่าบำรุงติดต่อกันตั้งแต่สามปีขึ้นไป

ข้อ 13.  กระบวนการลบชื่อสมาชิกออกจากทะเบียน  ให้เสนอเป็นญัตติโดยกรรมการบริหารจำนวนไม่น้อยกว่า ห้าคน  หรือโดยสมาชิกสมามัญที่ได้ชำระค่าบำรุงติดต่อกันไม่ต่ำกว่า สามปี จำนวนไม่น้อยกว่าสิบห้าคน ต่อคณะกรรมการบริหาร

การลงมติให้ลบชื่อให้ลงคะแนนลับ   และต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการบริหารทั้งหมด   แต่ก่อนที่จะลงมติต้องให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการบริหารเว้นแต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาชี้แจงโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องอันสมควร

(ดูข้อบังคับทั้งหมดคลิ้กที่นี้)

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

 

ระเบียบสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๑
ว่าด้วยคุณสมบัติสมาชิกสามัญ

อาศัยอำนาจตามความในข้อบังคับหมวด ๖ การบริหารสมาคม ข้อ ๑๖ ข เรื่องคณะกรรมการบริหารมีหน้าที่และอำนาจในการวางระเบียบและข้อบังคับต่างๆเพื่อดำเนินการบริหารกิจการตามวัตถุประสงค์ของสมาคม  จึงให้ออกระเบียบว่าด้วยคุณสมบัติสมาชิกสามัญ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ดังนี้

สืบเนื่องจากข้อบังคับสมาคม หมวด ๓ ว่าด้วยประเภทและคุณสมบัติของสมาชิก สามัญ ซึ่งต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์มาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี มีตำแหน่งและรายได้ประจำ ทำงานอยู่ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ที่เสนอข่าวสารและสาระเป็นสำคัญและพิมพ์ออกจำหน่ายต่อสาธารณชนเป็นประจำสม่ำเสมอ

เพื่อให้การกำหนดคุณสมบัติว่าด้วยการทำงานอยู่ในกองบรรณาธิการ มีความเข้าใจที่ถูกต้องและสอดคล้อง จึงให้นิยามความหมายของคำว่า “ทำงานอยู่ในกองบรรณาธิการ” ดังนี้

๑.     ต้องเป็นพนักงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าว โดยมีตำแหน่งดังต่อไปนี้ นักข่าว,หัวหน้าข่าว,ผู้เรียบเรียงข่าว (Rewriter), ช่างภาพ,หัวหน้าช่างภาพ, บรรณาธิการ, เลขากองบรรณาธิการ, เจ้าหน้าที่แปลข่าว, คอลัมนิสต์,เจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูล,พนักงานพิสูจน์อักษร (Proof Reader), ฝ่ายศิลป์, เป็นต้น

๒.     กรณีที่เป็นพนักงานตำแหน่งอื่น แต่ทำงานในสังกัดกองบรรณาธิการ นั้น ให้เป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหาร สมาคม

จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน