๑๓ พ.ย.องค์กรวิชาชีพสื่ออาลัยและรำลึกถึง “พระเจ้าอยู่หัว ร.๙”

 

๑๓ พ.ย.องค์กรวิชาชีพสื่ออาลัยและรำลึกถึง "พระเจ้าอยู่หัว ร.๙"

 

องค์กรวิชาชีพสื่อ รวมใจแสดงความอาลัย “พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙” วันอาทิตย์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ร่วมจุดเทียน ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อวงการสื่อมวลชนไทย

 

ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้มีการประชุมร่วมกันขององค์กรวิชาชีพสื่อ เพื่อสรุปรายละเอียดการจัดงาน "รวมใจคนสื่อน้อมเกล้าฯ แสดงความอาลัย“พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙” ในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ณ  สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน

โดยมีกำหนดการจัดงาน ดังนี้ เวลา ๑๖.๐๐ น. ลงทะเบียน  ๑๗.๐๐ น. บรรเลงไวโอลิน เพลงพระราชนิพนธ์  ๑๗.๓๐ น. นายวันชัย วงศ์มีชัย นายก สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวรายงาน ต่อจากนั้นนายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร ประธาน มูลนิธิอิศรา อมันตกุล เป็นประธานในพิธีถวายพวงมาลัย และนายมานิจ สุขสมจิตร ประธาน มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่มีต่อวงการสื่อมวลชน

เวลา ๑๗.๔๕ น. นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์  ศิลปินแห่งชาติและกวีซีไรท์  และนายอัศศิริ ธรรมโชติ ศิลปินแห่งชาติและนักเขียนซีไรท์ อ่านบทร้อยแก้ว ร้อยกรอง จากนั้น ๑๘.๐๐ น. สื่อมวลชนยืนสงบนิ่งร่วมกัน ๘๙ วินาที และเวลา ๑๘.๑๑ น. จุดเทียนและร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ๑๙.๐๐ น. ถ่ายภาพร่วมกัน

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๙ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เปิดให้เพื่อนสื่อมวลชนทุกแขนงร่วมลงนามแสดงความอาลัย และถวายสักการะหน้าพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ อาคารที่ทำการสมาคมฯ ทุกวันอย่างต่อเนื่อง

นายมานิจ สุขสมจิตร ประธาน มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยากให้สื่อมวลชนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อวงการสื่อมวลชนอย่างใหญ่หลวง ไม่เฉพาะเรื่องที่ทำการของหลายองค์กรสื่อในปัจจุบัน ที่สร้างขึ้นในที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์  ที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ และเสด็จฯทรงเปิดอาคาร แต่ทรงมีพระบรมราโชวาทหลายที่หลายแห่ง ที่เป็นประโยชน์ เป็นธง ของพวกเราในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องจริยธรรมของการเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีความเท็จ ซึ่งท่านทรงย้ำอย่างมาก

นอกจากนี้ อีกเรื่องสำคัญ ที่มีพระมหากรุณาธิคุณอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไม่ค่อยรู้  คือการที่พระองค์ท่านไม่ทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้กฏหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อเพิ่มโทษหมิ่นประมาท ด้วยโฆษณา หรือเพิ่มค่าเสียหายให้สูงกว่าเดิม ตามที่รัฐบาลสมัยนั้นเสนอในปี๒๕๓๕  ซึ่งสื่อมวลชนทุกแขนง หากกระทำละเมิด จะต้องชดใช้ให้ผู้เสียหายในคดีหมิ่นประมาท อย่างต่ำ ๔ ล้านบาท เมื่อไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย สภาและรัฐบาลขณะนั้นก็ไม่กล้ายืนยันใช้กฎหมายฉบับนี้

ทั้งนี้ หากประกาศใช้กฏหมายฉบับนั้น จะกลายเป็นอุปสรรค ขัดขวางการทำงานของสื่อ จะทำให้ไม่กล้าไปตรวจสอบใคร เพราะหากพลาดพลั้งไป ต้องโดนโทษทั้งอาญาและแพ่งอย่างหนัก  นี่เป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ต่อวงการสื่อมวลชนอย่างใหญ่หลวง ไม่เฉพาะสื่อแต่หมายถึงประชาชนด้วย เพราะการทำหน้าที่ตรวจสอบของสื่อ คือประโยชน์ของประชาชน