อุปนายกฯ สมาคมนักข่าวฯ ร่วมพิธีปิดอบรมภาษาไทยที่เวียดนาม สองสมาคม TJA และ VJA แลกเปลี่ยนนักข่าวดูงานสองประเทศ

 

เมื่อวันที่  9 ธันวาคม  2560  ได้มีการจัดพิธีปิดชั้นเรียนภาษาไทยสำหรับนักข่าวเวียดนามที่จัดโดยสมาคมนักข่าวเวียดนาม (VJA) กับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (TJA)  ที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมนักข่าวเวียดนาม  กรุงฮานอย  โดยมีนาย มงคล บางประภา อุปนายกฝ่ายบริหาร และเลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  และนายโห่กวางเหลย นายกสมาคมนักข่าวเวียดนามร่วมเป็นประธานในพิธี

เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและนายกสมาคมนักข่าวเวียดนามยังได้ร่วมกันมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้สื่อข่าวเวียดนามที่ผ่านการอบรม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบประกาศเกียรติคุณชมเชยแก่นักข่าวเวียดนามผู้เข้าอบรม 2 คนที่มีคะแนนสูงสุดในชั้นเรียนนี้  โดยผู้สื่อข่าวเวียดนามทั้งสองจะมีโอกาสได้รับทุนมาศึกษาดูงานที่สำนักข่าวสองแห่งในประเทศไทยในช่วงระหว่าง 4 – 11 มีนาคม 2561  เป็นเวลา 1 สัปดาห์  โดยรวมถึงการทัศนะศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ 2 วันอีกด้วย  เช่นเดียวกับผู้สื่อข่าวของประเทศไทยที่เข้าร่วมอบรมภาษาเวียดนาม  และได้คะแนนสูงสุด  2  คน  ก็ได้ไปศึกษาดูงานและทัศนะศึกษาที่ประเทศเวียดนาม 1 สัปดาห์ เช่นเดียวกัน

สำหรับผู้สื่อข่าวเวียดนามที่ได้เข้าอบรมภาษาไทยมีจำนวน 32 คน  ได้มีโอกาสเรียนการอ่าน คำศัพท์และไวยากรณ์ภาษาไทย ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าเรียนสามารถพูดภาษาไทยได้อย่างรวดเร็ว   นายมงคล บางประภา เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้ประเมินเกี่ยวกับชั้นเรียนนี้ว่า “การเรียนแค่10วันในเรื่องภาษาจริงๆ อาจจะไม่สามารถพูดภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว  ผู้อบรมจะต้องหมั่นฝึกฝนด้วยตนเองเพิ่มเติม  แต่สิ่งที่ดีกว่าการเรียนรู้ภาษาคือการเรียนรู้วัฒนธรรมและความรู้สึกที่มีต่อกันระหว่างสองชนชาติ เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างผู้เข้าอบรมทั้งสองประเทศ  พบว่ามีบรรยากาศและอารมณ์เดียวกัน  คือมีความครื้นเครงและสนุกสนาน เกิดด้วยความรู้สึกที่ดีต่อประเทศเจ้าของภาษา และมีความมุ่งมั่นอยากจะเชื่อมสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องระหว่างกัน  ซึ่งจุดนี้คือความสำเร็จเบื้องต้นในการอบรมสำหรับนักข่าวทั้งไทยและเวียดนาม”

นางเหงวียนเฟืองหั่ง นักข่าวจากสำนักข่าวเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งใน 2 ผู้เข้าอบรมที่มีคะแนนสูงสุดเปิดเผยว่า “ผ่านชั้นเรียนนี้ ดิฉันไม่เพียงแต่มีโอกาสเรียนภาษาไทยเท่านั้นหากยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ตอนแรก ดิฉันคิดว่า การเรียนภาษาไทยยากมากแต่เมื่อได้รับการสอนจากอาจารย์ ดิฉันคิดว่า วัฒนธรรมไทยมีความหลากหลาย ดิฉันมีความประทับใจมากที่มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่ไทยและหวังว่า จะได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทยมากขึ้น”

 

ทั้งนี้ระหว่างผู้บริหารองค์กรสื่อทั้งสองประเทศ  ยังได้มีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการต่อยอดการอบรมภาษาของนักข่าวทั้งสองประเทศ  และโครงการแลกเปลี่ยนนักข่าวดูงานระหว่างกันอีกในภายภาคหน้า เนื่องจากพบว่านักข่าวทั้งสองประเทศต่างก็มีความสนใจในโครงการนี้อย่างมาก

"โครงการแลกเปลี่ยนนักข่าวทั้งสองประเทศนี้ ให้การสนับสนุนโดย บริษัทเจริญโภคภัณฑ์"