สมาคมนักข่าวฯ จับมือองค์กรสื่อ-วิชาการตั้งศูนย์อำนวยการวาระเลือกตั้ง 62 มุ่งให้ฐานข้อมูลประชาชนเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพให้พรรคการเมืองต่อรองการร่วมรัฐบาลด้วยนโยบายแทนเก้าอี้ รมต.
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับองค์กรเครือข่าย ตั้งศูนย์อำนวยการวาระเลือกตั้ง 62 ทำหน้าที่สนับสนุนข้อมูลความรู้แก่ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จัดเวทีรับฟังเสียงความต้องการของกลุ่มประชาชน และเวทีแสดงวิสัยทรรศน์ของพรรคการเมือง เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพ และผลักดันให้พรรคการเมืองนำนโยบายที่ใช้หาเสียงไปสู่การปฏิบัติจริง ด้วยการเป็นประเด็นต่อรองการร่วมรัฐบาลแทนการต่อรองด้วยเก้าอี้รัฐมนตรี
สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้จัดงานเปิด “ศูนย์อำนวยการวาระเลือกตั้ง 2562” พร้อมจับมือกับ 8 พันธมิตร ได้แก่ สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล, สถาบันพระปกเกล้า, สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (PNET) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมขับเคลื่อนวาระเลือกตั้ง เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้กับประชาชน เน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมผลักดันนโยบายสาธารณะ พร้อมเปิดวงเสวนาฟอรั่มส่งเสียงประชาชนครั้งที่ 1 ในหัวข้อ “เสียงประชาชน...จุดเปลี่ยนประเทศไทย” ดำเนินวงเสวนาโดย ก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ และ ณัฎฐา โกมลวาทิน ณ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
การเปิดศูนย์อำนวยการวาระเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อให้นักการเมือง ได้นำเสนอนโยบาย และเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้นำเสนอข้อเสนอภาคประชาชนต่อนโยบายของพรรคการเมือง โดยจะนำเสนอผ่านทุก Platform ไม่ว่าจะเป็น On Air Online และ On Ground และยังมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งการให้ข้อมูลวิเคราะห์เจาะลึกทาง www.thaipbs.or.th/Election62
นส.วิลาสินี พิพิธกุล อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยพิบีเอส แถลงว่า อยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่แค่ให้สื่อติดตามความเคลื่อนไหวการเลือกตั้ง แต่ควรทำให้คนทั้งประเทศเติบโต ตื่นตัว ติดตามการเลือกตั้งทางนโยบาย เป็นที่มาของการเชิญองค์กรพันธมิตรมาทำงานร่วมกันโดยไทยบีเป็นองค์กรสาธารณะที่พร้อมเป็นพื้นกลางที่ดึงทุกฝ่ายมาทำงานร่วมกัน ให้มีฐานข้อมูลในการติดตามตรวจสอบว่านโยบายถูกนำมาใช้จริงหรือไม่ รวมทั้งเป็นพื้นที่จัดเวทีเชิญพรรคการเมือง ประชาชนและฝ่ายต่าง ๆ มาร่วมถกแถลงอภิปราย เพื่อทำให้พรรคการเมืองให้ความสำคัญ ให้น้ำหนักกับการทำนโยบายมากขึ้น ตลอดจนมาทำข้อตกลงร่วมกัน
ผอ.ไทยพีบีเอสกล่าวว่าจะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการวาระเลือกตั้ง 62 ภายใต้วาระ “ส่งเสียงประชาชน ให้เสียงของประชาชนไปไกลกว่าการเลือกตั้ง” โดยมีกรอบ 1 ปีอย่างหลวม ๆ โดยจะเข้มข้นจนถึง พ.ค. มิ.ย. หลังจัดตั้งรัฐบาล เพื่อติดตามผลักดันให้นโยบายในการหาเสียงของพรรคการเมืองไปสู่การปฏิบัติจริง นอกจากนี้ไทยพีบีเอสยังได้ออกแบบเวปไซด์พื้นที่กลางในการให้ข้อมูลกับสื่อโดยรวม เพื่อให้การรายงานข่าวเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการรายงานบนพื้นฐานของข้อมูล
นส. ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ ตัวแทนจากพีเน็ตกล่าวว่า ทางพี่เน็ตพร้อมช่วยในการจัดเวทีกระตุ้นการเลือกตั้ง เชิญนักการเมืองทุกจังหวัดมาถามชุมชน เพื่อตอบโจทย์ของชุมชน และพีเน็ตก็ยังคงทำหน้าที่เรื่องการสังเกตการณ์ การรับแจ้งเหตุให้ครบทั้ง 77 จังหวัดควรคู่ไปด้วย เสนอว่าควรให้ความสำคัญกับกระบวนการรณรงค์เกี่ยวกับนโยบาย
นายมงคล บางประภา อุปนายก และเลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยกล่าวว่า เราควรจะช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการเมือง โดยอาศัยกลไกการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่บังคับให้พรรคการเมืองต้องให้ความสำคัญกับการใช้นโยบายหาเสียงเพื่อเก็บเกี่ยวคะแนนบัญชีรายชื่อให้เป็นประโยชน์
“ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งที่จัดตั้งขึ้น ควรจะร่วมมือกับสื่อมวลชนด้วยการช่วยกันถามพรรคการเมืองแต่ละพรรค ว่าหากจะเข้าร่วมเป็นรัฐบาลผสม จะมีนโยบายไหนของพรรคที่ต้องยืดหยัดและตั้งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการต่อรองการเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ต่อรองด้วยเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะในอดีตที่ผ่านมาเวลาพรรคการเมืองหาเสียงแล้วเกิดเป็นรัฐบาลผสม มักอ้างว่านโยบายที่หาเสียงทำไม่ได้เพราะไม่สอดคล้องกับพรรคอื่น ๆ ที่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน” นายมงคลกล่าว
อุปนายกและเลขาธิการสมาคมนักข่าวฯ กล่าวว่าหากสามารถสร้างวัฒนธรรมการเมืองดังกล่าวได้ จะทำให้พรรคการเมืองต้องฟังเสียง ต้องรู้ความต้องการของประชาชนมากขึ้น เพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบาย แล้วนำนโยบายนั้นมาหาเสียงซึ่งเมื่อได้รับเลือกมาก็ถือเป็นการผ่านการรับรองด้วยประชามติจากเสียงของประชาชนที่เลือก และมีหน้าที่ไปผลักดันเป็นนโยบายที่นำไปสู่การปฏิบัติจริง ถือเป็นการรักษาสัญญาประชาคมในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง