สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย​ เดินทางเยือนสมาคมนักข่าวจีน​ ณ​ ​ มหานครปักกิ่ง แลกเปลี่ยนพัฒนาวิชาชีพสื่อ​ปีที่24​ ระหว่าง 2 ประเทศ

เมื่อวันที่ 1​ กรกฎาคม 2566 นางผุสดี คีตวรนาฏ ที่ปรึกษา​และอดีตนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ​​ พร้อมด้วยนายบรรยงค์ สุวรรณผ่อง กรรมการจริยธรรมวิชาชีพ คณะกรรมการบริหารและพนักงานสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เดินทางมาเยี่ยมเยือนสมาคมนักข่าวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ( All-China Journalists Association- ACJA) ณ มหานครปักกิ่ง​ สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำเชิญ​ของนาย ​Liu Siyang อุปนายกคนที่ 1ของสมาคมนักข่าวจีน​ พร้อมรับประทานอาหารร่วมกัน​เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านต่างๆ

นาย​ ​Liu Siyang กล่าวว่า​ มีความยินดีเป็นอย่างมากที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเดินทางมาเยี่ยมเยือนตามคำเชิญของสมาคมนักข่าวจีน​ครั้งนี้ เนื่องจากทั้งสองสมาคมฯ​ มีข้อตกลงความร่วมมือกันมานานกว่า 24 ปี เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองการทำงานของสื่อมวลชนระหว่าง 2 ประเทศ​ ท่ามกลางโลกการสื่อสารที่เปลี่ยนเป็นการรับข้อมูลข่าวสารผ่านโลกออนไลน์​ ทั้งยังเป็นยกระดับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี​ต่อกันให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และหวังว่าสื่อมวลชนไทยและประชาชนจะมีความเข้าใจจีนมากยิ่งขึ้น​ ในโอกาสสานสัมพันธ์ไทย-จีนครบรอบ 48 ปี วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 นี้ด้วย

การมาเยือนครั้งนี้ เป็นการต้อนรับสมาคมนักข่าวจากต่างประเทศเป็นแห่งแรกนับตั้งแต่การระบาดของเชื้อโควิด 3 ปีที่ผ่านมา​ และยิ่งกว่านั้นในวันที่1 กรกฎาคม 2566​ ยังถือเป็นวันครบรอบ 102 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ชาวจีน​ให้ความสำคัญ​กันมาอย่างยาวนาน มีเรื่องราวประวัติศาสตร์การขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านเศรษฐกิจ​ ความมั่นคง และความเป็นอยู่ของประชาชนอันมีความมั่งคั่งมาจนถึงปัจจุบันนี้​ ด้วยการยึดรากฐานการสร้างสันติภาพทั้งในประเทศ​และนานาชาติ รวมถึงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม​ ผสมผสานกับการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาร่วมขับเคลื่อนในการพัฒนาประเทศ ในการส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความรู้ จนประสบความสำเร็จในหลายมิติ

นอกจากนี้ในอนาคตนโยบายจีนยังจะมีการส่งเสริมความมั่งคั่งไปสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นมิตรแท้กับจีนมาอย่างยาวนาน​ โดยเฉพาะประเทศไทย ที่เป็นมิตรกับจีนมานานกว่า48 ปี​ และมีความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายของจีนเป็นอย่างดี​ ทำให้มีความได้เปรียบมากกว่าประเทศอื่น​ และรัฐบาลจีนต่างก็มองให้ความสำคัญในการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจร่วมกันเป็นอีกประเทศหนึ่งด้วย

ในส่วนบทบาทของสมาคมนักข่าวจีนไม่มีอำนาจในการควบคุมการทำงานของสื่อมวลชน แต่สมาคมนักข่าวจีนมีหน้าที่ให้บริการ​และสร้างความสามัคคี​ เชื่อมความสัมพันธ์สื่อมวลชนแต่ละมณฑลให้เป็นหนึ่งเดียว ทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ความรู้ อบรมด้านวิชาชีพโดยเฉพาะด้านจริยธรรมการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน​ โดยมีคณะกรรมการจากหลายอาชีพสาขาไม่ว่าจะเป็นพนักงานของรัฐ นักธุรกิจ นักศึกษา​ นักวิชาการ​ และประชาชนทั่วไป เข้ามาร่วมในการตรวจสอบการทำหน้าที่ของสื่ออยู่ตลอด​ หากได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทำข่าวปลอม​ ข่าวลวง​ หรือข่าวหลอก คณะกรรมการชุดนี้จะทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวด 

นอกจากนี้สมาคมนักข่าวจีนยังให้การช่วยเหลือด้านสวัสดิการสื่อมวลชนทั่วประเทศ อย่างเช่นสวัสดิการเมื่อสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่​ซึ่งมีการจ่ายสวัสดิการราว 5 ล้านหยวนต่อปี​ เพราะการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนจีนค่อนข้างมีความเสี่ยงอันตรายสูง เพื่อนำข้อมูลข่าวสารนั้นมาเสนอต่อสาธารณชน เมื่อได้รับบาดเจ็บก็ควรต้องดูแลตามสมควร

แต่อย่างไรก็ดีในอนาคตสมาคมนักข่าวจีน​และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จะมีการยกระดับส่งเสริมจัดอบรม​หรือจัดกิจกรรมการทำงานข่าวร่วมกันให้เป็นรูปธรรมมากกว่าการมาเยี่ยมชมสถานที่เท่านั้น​ ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือกันต่อไป