แนวร่วมเสื้อแดงปลุกม๊อบไล่นักข่าวพ้นผ่านฟ้า เหิมขว้างอิฐใส่รถช่อง3กระจกแตกคนขับเจ็บ
เมื่อวันที่ 11 เมษายน เวลา 16.00 น.นายสมชาย ไพบูลย์ แนวร่วมนปช.ขึ้นปราศรัยบนเวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กล่าวโจมตีการทำงานของสื่อมวลชนไทยว่า เสนอข่าวเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา บิดเบือน ทำให้ภาพลักษณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดงดูไม่ดี โดยระบุว่าสื่อมวลชนไทยโดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์รายงานเฉพาะความสูญเสียของทหารมากกว่าผู้ชุมนุม ทั้งที่ผู้ชุมนุมเสียชีวิตและบาดเจ็บมากกว่าหลายเท่า ขณะที่มีสื่อมวลชนต่างประเทศหลายที่มาขอภาพจากคนเสื้อแดงเพื่อช่วยเผยแพร่ไปทั่วโลก ดังนั้น ต่อไปนี้จะไม่ขอพึ่งพาสื่อมวลชนไทย เพราะรับใช้อำมาตย์ คนเสื้อแดงไม่ง้อสื่อมวลชนไทย และหากไม่นำเสนอก็ขอให้ออกไปจากพื้นที่ชุมนุม พร้อมระบุให้สื่อมวลชนออกข่าวไปได้เลยว่าคนเป็นผู้ด่าสื่อเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสมชาย ปราศรัยดังกล่าว ผู้ชุมนุมต่างตะโกนโห่ร้อง เขย่าตีนตบ ร้องตะโกนด่าสื่อมวลชนไทย ขณะเดียวกัน บริเวณด้านข้างเวทีปราศรัยที่จัดเป็นศูนย์สื่อมวลชนในการรายงานข่าวม็อบคนเสื้อแดงและมีผู้ชุมนุมระดับวีไอพี ที่สามารถเข้าด้านหลังเวทีได้ พากันตะโกนตำหนิสื่อมวลชนที่ทำงานอยู่ในบริเวณดังกล่าว นอกจากนั้นยังพากันเดินวนเวียนหลายรอบพร้อมด่าว่าการทำงานของสื่อตลอดเวลา เป็นเหตุให้กลุ่มผู้สื่อข่าวทุกแขนงกว่า 20 ชีวิต ต้องตัดสินใจออกนอกพื้นที่ โดยไปรวมตัวกันที่บริเวณ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน (บก.สด.) ขณะเดินออกจากหลังเวทีมีการ์ด นปช.ที่อยู่บริเวณทางเข้าออกยังตะโกนด่าว่า “ให้ไสหัวไป” นอกจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านหน้าเวทีมีอารมณ์ร่วมด้วยพากันมองสื่อมวลชนไทยที่เดินผ่านด้วยสายตาที่โกรธแค้น
นอกจากนี้สื่อมวลชนไทยเมื่อถึงบก.สด.แยกออกเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งเข้าไปอยู่ด้านใน ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งไปรวมตัวอยู่ที่รถถ่ายทอดสดของทีวีสีช่อง 3 ที่ประจำอยู่บริเวณดังกล่าวมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ขณะนั้นเองมีผู้ชุมนุมประมาณ 2-3 คน ตะโกนด่าผู้ชุมนุมที่บริเวณดังกล่าว เมื่อผู้ชุมนุมคนคนอื่นเห็นจึงพากันเข้าล้อมกรอบกลุ่มผู้สื่อข่าวเป็นจำนวนมากพร้อมพากันตะโกนไล่ผู้สื่อข่าวทั้งหมดให้ออกจากพื้นที่ ทำให้กลุ่มผู้สื่อข่าวต้องตัดสินใจออกนอกพื้นทีทันที บางส่วนไปอยู่ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถ.สามเสน
ขณะที่บนเวทีนายพายัพ ปั้นเกตุ แกนนำ นปช.ขึ้นเวทีประกาศขอโทษและขอให้สื่อมวลชนกลับเข้าทำงานในพื้นที่ แต่ขณะที่นายไพบูรณ์ จุลสุคต์ คนขับรถถ่ายทอดสดของช่อง 3 กำลังขับออกจากกำลัง บก.สด. ปรากฏว่า กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าล้อมกรอบและมีชายเสื้อแดงคนหนึ่งใช้ก้อนอิฐขนาดใหญ่ขว้างใส่กระจกรถด้านข้างคนขับ จนกระจกแตกละเอียดเป็นเหตุให้นายไพบูรณ์ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนขวาเนื่องจากถูกกระจกรถบาด ตำรวจที่เห็นเหตุการณ์จึงเข้าไประงับเหตุและช่วยกันรถถ่ายทอดสัญญาณออกนอกพื้นที่ไป
จากนั้นเวลา 16.30 น. นายพายัพ นายวรชัย เหมะ เข้าพบผู้สื่อข่าวที่ยังอยู่ภายใน (บก.สด.) ชี้แจ้งถึงเหตุการณ์กรณีที่นายสมชายขึ้นพูดปลุกเร้าให้เสื้อแดงขับไล่สื่อมวลชนไทย ว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคลของนายสมชายเท่านั้น โดยในการประชุมแกนนำในช่วงเย็นจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม เพื่อไม่ให้ผู้ที่ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีสื่อมวลชนอีก สำหรับนายสมชายคงต้องเข้าที่ประชุมเช่นกัน อาจจะไม่ให้ขึ้นปราศรัยบนเวทีอีกต่อไป พร้อมยกมือไหว้และขอให้สื่อกลับเข้าไปทำงานในพื้นที่ตามเดิม
ทั้งนี้แม้นายพายัพ และนายวรชัยรับปากว่าจะไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก แต่ผู้สื่อข่าวส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยยังจึงไม่กล้า โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ทุกช่องพากันถอนออกนอกพื้นที่ทันที ขณะที่ผู้สื่อข่าวแขนงอื่นยังปักหลักอยู่ที่ บก.สด