รอยเตอร์บี้คดียิงช่างภาพชาวญี่ปุ่น

รอยเตอร์บี้คดียิงช่างภาพชาวญี่ปุ่น


ที่ บช.น.เมื่อวันที่ 14 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หัวหน้าข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์และผู้สื่อข่าว 3 คน เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายฮิโนยูริ มูราโมโต ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น จากเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างทหารกับกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ที่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา และต้องการให้ตำรวจเร่งจับกุมผู้ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี ทั้งนี้ กลุ่มผู้สื่อข่าวสำนักข่าวดังกล่าวได้ขอหารือกับ พล.ต.ต.อำนวย เป็นการส่วนตัว และไม่ขอเปิดเผยชื่อโดยขอความร่วมมือสื่อมวลชนไทยไม่ให้บันทึกภาพอีกด้วย                พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวทางสถานทูตญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นได้เฝ้าติดตามเรื่องนี้อยู่ ตนจะให้ข้อมูลบางส่วนที่สามารถเปิดเผยได้เท่านั้น แต่บางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะทางญาติผู้เสียชีวิตก็ไม่ยอมให้เปิดเผย เช่น ผลการตรวจทางแพทย์ ยืนยันว่าตำรวจให้ความสำคัญในคดีเป็นพิเศษ ตนได้ประชุมที่ ศอฉ.ได้พูดคุยถึงคดีนี้ด้วย ผู้เสียชีวิตจะอยู่ที่ประเทศไทยถึงวันที่ 14 เมษายนเป็นวันสุดท้าย ก็คงจะมาถามด้วยว่าเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ซึ่งชัดเจนว่าเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่

“ในทางคดีนั้นพนักงานสอบสวนดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบเพราะจะต้องถูกตรวจสอบจากหลายองค์กร แต่ไม่ใช่ว่าพอจะถูกตรวจสอบแล้วจึงทำละเอียดนั้นไม่ใช่ คดีต้องให้ละเอียดอยู่แล้ว ด้านคดีอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลหาพยานหลักฐานขณะเกิดเหตุ เบื้องต้นมีพยานมาให้ปากคำบ้างแล้วยังห่างๆ เป็นคนที่แบกผู้เสียชีวิตออกมา แต่ที่เห็นเป๊ะๆ เลือดกระเซ็นเข้าตานั้นยังไม่ได้” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว

รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า ตนขอย้ำอีกครั้งหากผู้ใดมีคลิปวีดีโอ ภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม ขอให้ส่งมาเพื่อประกอบคดี โดยจะมีการตรวจสอบก่อนนำเข้าสู่สำนวนพิสูจน์ความถูกต้องยืนยันถึงการกระทำผิดแล้วมุ่งไปสู่ตัวผู้กระทำความผิดให้ได้ ตำรวจจะปกปิดข้อมูลผู้ส่งไว้เป็นความลับ นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนจะทำหนังสือขอภาพสื่อมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยทาง บช.น.มีศูนย์เฝ้าฟังเหตุการณ์จากทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องและเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด

ด้านความคืบหน้าเกี่ยวกับภาพสเก็ตช์คนร้าย นั้น พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า เป็นคดีที่ทาง กก.สส.บก.น.6 ยึดเป็นเอ็ม 79 มาได้ในวันเกิดเหตุที่บริเวณแยกคอกวัว แต่คนร้ายหลบหนีไปได้ กรณีคนร้ายสวมชุดดำสวมไอ้โม่งถือปืนตามภาพที่ปรากฏนั้น วิธีการที่จะดำเนินการ คือ รายละเอียดภาพเห็นจมูก เห็นโหนกแก้ม ก็จะส่งภาพผู้ต้องสงสัยไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบและยืนยัน ซึ่งสามารถทำได้ ผู้ต้องสงสัยเป็นศพฝังไปสิบปียี่สิบปีเน่าเปื่อยเหลือแต่กะโหลกขุดขึ้นมาก็ทำภาพเชิงซ้อนได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องเรียกทหารมาสอบปากคำด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า แน่นอนจะต้องเรียกมาสอบปากคำอยู่แล้ว รวมทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด เมื่อถามถึงข้อมูลในวันเกิดเหตุที่มีการระบุว่ามีการล็อกเป้าด้วยเลเซอร์เพื่อยิงนายทหาร พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ในจุดนี้ต้องขอเวลาตรวจสอบอีกสักระยะก่อนเพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน