นายกฯตอบ รับแผนปฏิรูปสื่อของเครือข่ายวิชาชีพสื่อมวลชน มอบให้เป็นตัวกลางเปิดเวทีสาธารณะก่อนถกร่วมภาครัฐ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ นายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์ไทย นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ในนามเครือข่ายสภาและสมาคมวิชาชีพสื่อมวลชน 10 องค์กร ประกอบด้วย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไท! ย เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคเหนือ เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคอีสาน เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคใต้ และเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคกลางและภาคตะวันออก เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปสื่อมวลชน
นายประสงค์ กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลเร่งรัดการปฏิรูปสื่อภาครัฐ โดยเฉพาะช่อง 11 ที่เห็นว่ากรมประชาสัมพันธ์ไม่มีความสามารถในการจัดการต้องให้เอกชนเข้า มาบริหารจัดการ เรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายตามมาตรา 46 เพื่อให้ความคุ้มครองสื่อและผู้ประกอบวิชาชีพตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เร่งรัดให้วุฒิสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม(กสทช.) โดยเร็ว ระหว่างที่ยังไม่มี กสทช.ให้คณะอนุกรรมการวิทยุการจายเสียงฯ เร่งรัดดำเนินการตามกฎหมายเพื่อกำกับดูแลวิทยุชุมชน โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและเคเบิลทีวี
นายประสงค์ กล่าวว่า ทั้งนี้สื่อมวลชนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่เสนอข่าวสร้างความขัดแย้ง การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ใช้เพื่อการขัดขวางการทำหน้าที่สื่อ ประชาชนควรเปิดรับข้อมูลข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย สามารถร้องเรียนต่อองค์กรที่ควบคุมกันทางวิชาชีพได้ทันที ทั้งนี้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนสนับสนุนให้มีองค์กรอิสระในภาควิชาการและภาค ประชาสังคมตรวจสอบการนำเสนอข่าวสารอย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค โดยองค์กรที่ยื่นจดหมายเปิดผนึกพร้อมเป็นแกนกลางในการประสานงานความร่วมมือ กับภาคส่วนอื่นๆ และรัฐบาลในการผลักดันกระบวนการปฏิรูปสื่อ
ด้านนาย อภิสิทธิ์กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางของเครือข่ายสมาคมวิชาชีพและถือว่าเป็นข้อเสนอของกลุ่มคน กลุ่มแรกที่เสนอข้อเรียกร้องในการปฏิรูปสื่อตามแผนปรองดองขึ้นเป็นองค์กรแรก โดยขอให้เครือข่ายเป็นคนกลางในการจัดเวทีสาธารณะนอกรอบและอย่างเป็นทางการ ขึ้นมา จากนั้นก็ขอให้ภาครัฐเข้าไปมีส่วนร่วม แต่ตนมีข้อสังเกตว่าสื่อต้องรวมไปถึงอินเตอร์ เอสเอ็มเอส ทีวีดาวเทียม เว็บบอร์ดสนทนาด้วยหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่กว้าง อาจจะต้องจัดวงออกไปอีกต่างหาก เพราะปัจจุบันก็ถูกมองว่ารัฐเข้าไปละเมิดสิทธิเสรีภาพเพราะใช้กฎหมายเกี่ยว กับความผิดด้านคอมพิวเตอร์ ส่วนสถานีโทรทัศน์พีทีวีและเอเอสทีวีตนก็ต้องการให้เชิญมาพูดคุยด้วยเช่นกัน ส่วนการบังคับใช้กฎหมายของอนุคณะกรรมการ กสทช.นั้นเห็นว่ามีช่องกฎหมายที่จะดำเนินการได้ แต่ปัญหาอยู่ทีผู้ปฏิบัติ จึงขอมอบหมายให้นายสาทิตย์ไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด