ขอเลื่อนวันอบรม “เตรียม พร้อมการทำข่าวในสถานการณ์ความรุนแรง” ออกไปก่อนหากได้วันเวลาที่แน่นอนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย โดยความร่วมมือกับแพทยสภา กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จะจัดการอบรม “เตรียม พร้อมการทำข่าวในสถานการณ์ความรุนแรง” เพื่อ ให้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพจากสื่อหนังสือพิมพ์ สถานี โทรทัศน์และวิทยุ ได้เรียนรู้เรื่องอาวุธสงครามและ ระเบิด - การป้องกัน – การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดย มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยสร้างองค์ความรู้พื้นฐานให้แก่สื่อมวลชน ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาวุธทุกชนิด ตลอดจน ประสิทธิภาพในการทำลายล้าง รวมไปถึงการจุดระเบิดชนิด ต่างๆ รวมทั้งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและเรียนรู้วิธีการป้องกันตัวจา กอาวุธและระเบิดชนิดต่างๆ โดยจะจัดระหว่างวันเสาร์ที่ ๑๗ -วันอาทิตย์ที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ณ กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ค่ายนเรศวร) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
ใน การนี้ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จึงเรียนมาเพื่อขอเชิญท่านส่งนักข่าวเข้าร่วมการอบรมจำนวนไม่เกิน ๒ คน (ค่าลงทะเบียนคนละ ๑,๐๐๐ บาท) โดยขอความกรุณาส่งชื่อนักข่าวที่สนใจ เข้าร่วมการอบรมมายังสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โทร. ๐๒-๖๖๘-๙๔๒๒ โทรสาร. ๐๒-๖๖๘-๗๕๐๕ E-mail: reporter@inet.co.th ภายในวันพุธที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๓
//////////////////////////////////////////////////////////
กำหนดการอบรม “ เตรียมพร้อมการทำข่าวในสถานการณ์ความรุนแรง”
เรียนรู้เรื่องอาวุธสงครามและระเบิด - การป้องกัน - การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ณ กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ
กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ค่ายนเรศวร) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
วันเสาร์ที่ 17 – วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม 2553
วันเสาร์ที่ 17 ก.ค.2553
06.00 น ลงทะเบียน
07.00 น ออกเดินทางจากสมาคมนักข่าวฯ ไปยังค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
กิจกรรมแนะนำตัวเพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างผู้เข้าร่วมอบรม
09.30 น เดินทางถึงค่ายนเรศวร
09.30 น พิธีเปิดการอบรม
โดย กล่าวต้อนรับและวัตถุประสงค์การจัดอบรม
นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์
นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
พลตำรวจตรีธนพล สนเทศ ผู้บังคับการ กองบังคับการสายตรวจและ
ปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.)
09.45 น ความรู้เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ และการป้องกันตนเอง
บรรยายเกี่ยวกับอาวุธทุกชนิดที่ใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ ปืนพกพา และปืนชนิดต่างๆ เครื่องยิง อาวุธสงคราม ทั้ง อาร์พีจี และเอ็ม 79 ตลอดจนการจุดระเบิดชนิดต่างๆ ว่ามีคุณลักษณะและ วิถีกระสุน อำนาจในการทำลายล้าง วิธีการสังเกต และขอบเขตระยะรัศมีของพื้นที่ในการหลบหลีก รวมทั้งอาวุธที่ใช้ในการชุมนุมทางการเมืองครั้งที่ผ่านมา
โดย พันตำรวจโทกำธร อุ่ยเจริญ รองผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์
วัตถุระเบิด กองบังคับการสายตรวจและการปฏิบัติการพิเศษ บชน.
12.00 น รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น บรรยายความรู้เรื่องเบื้องต้นเกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์ (ต่อ)
14.00 น เดินทางลงพื้นที่เรียนรู้ภาคสนาม ค่ายนเรศวร
14.30 น ชมสาธิตการใช้อาวุธปืน อาวุธสงคราม ทดสอบการยิงจริง จากปืนเอ็ม 79 ฝึกสังเกตุและฟังเสียงการใช้อาวุธแต่ละชนิด เรียนรู้จากการทดสอบการ จุดระเบิดชนิดต่างๆ เช่น ระเบิดดินดำ ปิงปอง ซีโฟร์ และทีเอ็นที เป็นต้น และเรียนรู้วิธีการป้องกันตนเองในสถานการณ์ต่างๆ
17.00 น เดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก
17.30 น พักผ่อนตามอัธยาศัย
18.30 น รับประทานอาหารเย็น
19.30 น บอกเล่าประสบการณ์ ข่าวในภาวะสงคราม โดย
นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอท
ช่างภาพมืออาชีพและนักข่าวมากประสบการณ์
ดำเนินรายการโดย นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ นายก สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
วันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค.2553
06.30 น นัดพร้อมเพรียงออกกำลังกายยามเช้า
08.30 น รับประทานอาหารเช้า
09.30 น เรียนรู้เรื่องการควบคุมฝูง ขั้นตอนและแนวปฏิบัติจริง
โดย กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน
10.30 น พักรับประทานอาหารว่าง
10.45 น การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉิน
ผลที่เกิดจากการใช้อาวุธชนิดต่างๆ เช่นอาวุธเคมี (น้ำกรด แก๊สน้ำตา) วัตถุระเบิดและ กระสุน อาวุธก่อความร้อน (ไฟไหม้-ลวก) แนวทางการป้องกันตัวจากอาวุธในพื้นที่ชุมนุม แนวทางการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยเหลือผู้อื่น
12.00 น รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น ฝึกปฏิบัติการกู้ชีพและการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ถูกต้อง
14.30 น พิธีปิดการอบรม
15.00 น ออกเดินทางกลับ
18.00 น เดินทางกลับถึงสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ข้อควรปฎิบัติ
ผู้เข้าอบรมจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมได้ตลอดตามกำหนดการ
การอบรมแต่งกายในชุดที่เตรียมพร้อมเพื่อความคล่องตัวในการลงพื้นที่ฝึกปฏิบัติภาคสนาม