พิธีมอบรางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวส่งเสริมสิทธิเด็ก ประจำปี 2553

 "สถาบันอิศราร่วมมือยูนิเซฟส่งเสริมสิทธิเด็กปีที่ 5 มอบรางวัลประกวดข่าวและสารคดีเชิงข่าว"

เมื่อวันพุธที่ 17 พ.ย. เวลา 13.00 น. สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ได้จัดพิธีมอบรางวัล “ข่าวและสารคดีเชิงข่าวส่งเสริมสิทธิเด็ก” ประจำปี 2553 โดยการสนับสนุนจาก องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเซ็นจูรี่พาร์ค

นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา เปิดเผยว่า การประกวดข่าวและสารคดีเชิงข่าวส่งเสริมสิทธิเด็กใน สื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ และหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติในโรงเรียน ปี 2553 นี้ สถาบันอิศราร่วมกับองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดยสื่อมวลชนแขนงต่างๆ นิสิตนักศึกษา และนักเรียน ให้ความสนใจส่งผลงานข่าวและสารคดีเชิงข่าวด้านการส่งเสริมสิทธิเด็กเข้าประกวดมากกว่าปีที่ผ่านมา

ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา กล่าวต่อว่า สำหรับผลการตัดสินรางวัลประเภทต่างๆ มีดังนี้ รางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อหนังสือพิมพ์ ประกอบด้วย รางวัลยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 50,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ ผลงานข่าวเรื่อง “วิบากกรรมของหัวกะทิ” โดย นางสาวทิพย์พิมล  เกียรติทีรัตนะ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ส่วนรางวัลชมเชย มี 2 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ ผลงานข่าวเรื่อง “กระตุกสังคมต้านโหด ‘สิทธิที่จะมีชีวิต’ หยุดละเมิดเด็กซ้ำซาก ” โดย โต๊ะข่าวสกู๊ป หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และ ผลงานข่าวเรื่อง “น้องไบเบิล 5 ขวบยอดกตัญญู” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

นายชวรงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนรางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อวิทยุกระจายเสียง คณะกรรมการตัดสินมีความเห็นว่า ไม่มีผลงานชิ้นใดอยู่ในข่ายได้รับการพิจารณาให้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม แต่มีผลงานที่คณะกรรมการเห็นสมควรให้ได้รับรางวัลรางวัลชมเชย 1 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่  ผลงานข่าวเรื่อง “โอกาสทางการศึกษาของเด็กพิเศษในสังคมไทย” โดย นางสาวนิตยา น้อยใหญ่ สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา กล่าวต่อไปว่า รางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อโทรทัศน์ ประกอบด้วย รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล รางวัลละ 50,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่  ผลงานข่าวเรื่อง “เด็กต่างด้าว : สิทธิทางการศึกษา” โดย สถานีโทรทัศน์เนชั่น แชแนล ส่วนรางวัลชมเชยมี 2 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ สารคดีเชิงข่าวเรื่อง “ความลับของแม่ข้างถนน” รายการเรื่องจริงผ่านจอ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และ  สารคดีเชิงข่าวเรื่อง “เด็กไร้สัญชาติ” โดย บริษัท มหาชัยเคเบิลทีวี จำกัดนอกจากนั้นทางคณะกรรมการตัดสินยังมีมติเพิ่ม รางวัลชมเชย (พิเศษ) 2 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท ได้แก่ สารคดีเชิงข่าวเรื่อง “ดีเจ…ไร้สัญชาติ” โดย บริษัท เคซีทีวี (นครสวรรค์) จำกัด และ “การเฝ้าระวังดินถล่ม” โดย สถานีทีวีไทย

 
นายชวรงค์ กล่าวด้วยว่า รางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา ประกอบด้วย รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ ผลงานข่าวเรื่อง “เมื่อสนามเด็กเล่น เป็นสนามม้า” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สื่อมวลชน  มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ส่วนรางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่  ผลงานข่าวเรื่อง “Talent กับกิจกรรมปิดทองหลังพระของกลุ่มเด็ก” โดย กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ลานมะพร้าว มหาวิทยาลัยบูรพา และ  ผลงานข่าวเรื่อง “ปัญหาตำตา กระเทือนชีวิตของเด็กแว่น” โดย กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์อุดรโพสต์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา กล่าวต่อว่า รางวัลประเภทหนังสือพิมพ์ในโรงเรียนส่งเสริมสิทธิเด็ก ประกอบด้วยรางวัลดีเด่น 1 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่  หนังสือพิมพ์ม่วงชมพูโพสต์  โดย โรงเรียนนครนายกวิทยาคม ส่วนรางวัลชมเชยมี 2 รางวัล รางวัลละ 2,500 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่  หนังสือพิมพ์ประดู่แดงนิวส์ โดย โรงเรียนนวมราชานุสรณ์ และ  หนังสือพิมพ์ฟ้าใหม่ โดย โรงเรียนบ้านนา “นายกพิทยากร”


นายชวรงค์ กล่าวว่า นอกจากพิธีมอบรางวัล โดยมี นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีและทูตพิเศษ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เป็นประธานในการมอบรางวัล สถาบันอิศรายังจัดให้มีการ เสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ “สิทธิเด็กในสื่อ ภาพสะท้อนปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย” ทั้งนี้ การจัดประกวดดังกล่าว สถาบันอิศราเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงาน โดยร่วมมือกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนและนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและอื่นๆ