คำขอบคุณของ 2 นักข่าวหญิง

คำขอบคุณของ 2 นักข่าวหญิง

แปลโดย บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์

อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน กลายเป็นวีรบุรุษภายในชั่วข้ามคืนเมื่อเมื่อเป็นคนนำ ยูน่า ลี  นักข่าวหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีและ ลอร่า หลิง นักข่าวอเมริกันเชื้อสายจีนขึ้นเครื่องบินจากแดนโสมแดงมุ่งหน้ากลับบ้านไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง หลังจากพวกเธอถูกทางการเกาหลีเหนือจับกุมตั้งแต่เดือนมีนาคมในข้อหาลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายและต้องโทษจำคุก 12 ปี

กระนั้น ทั้งยูน่า ลีและลอรา หลิงก็ไม่ถือสาอะไรที่ถูกอดีตสิงห์สำราญบิล คลินตัน ขโมยซีนสำคัญไปในนาทีสุดท้าย พวกเธอได้แต่โพสต์ข้อความขอบคุณลงในเวบไซต์ LauraAndEuna.com ที่เพื่อนๆและกลุ่มผู้สนับสนุนเธอได้เปิดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้เกาหลีเหนือปล่อยตัวพวกเธอทั้ง 2 คน  

ในส่วนของลอร่า หลิง เธอได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดช่วงที่ถูกจองจำนานถึง 140 วันว่าจากจดหมายที่ได้รับบางส่วนนั้น ทำให้เธอรู้ว่ามีการเปิดเวบไซต์ LauraAndEuna.com และเฟซบุ้ค อีกทั้งยังมีความพยายามในระดับรากหญ้าเพื่อจะนำพวกเธอกลับบ้านให้ได้

"ระหว่างที่ถูกถูกขังเดี่ยวในคุกเกาหลีเหนือด้วยความหวาดวิตก สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันยังคงเข้มแข็งและยังเต็มไปด้วยความหวังความศรัทธาก็คือการได้ยินข่าวว่ามีการเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนยูนาและฉัน พวกคุณเองก็เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการที่แทบไม่น่าเชื่อนั้นและฉันก็เป็นหนี้คำขอบคุณนี้ตลอดไป"

"ท่ามกลางความมืดและความหดหู่สิ้นหวังที่สุดในชีวิต ฉันคิดถึงทุกคนที่ร่วมมือร่วมใจกันส่งข้อความแห่งความรักและความหวังให้กับเรา ฉันหลับตานึกถึงภาพของเปลวเทียนสว่างไสวซึ่งช่วยให้จิตใจของฉันเบิกบานขึ้น" ลอรา หลัง เขียนไว้ตอนหนึ่ง

"ฉันคงไม่ไม่มีโอกาสได้รับอิสระและได้กลับบ้านมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวอีกครั้ง ถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือและการสนับสนุนจากคนวิเศษมากหน้าหลายตาเหล่านี้...และขณะที่ประสบการณ์เป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิตแต่ฉันก็เชื่อว่าบางสิ่งบางอย่างที่สวยงามสามารถบังเกิดขึ้นได้ นั่นก็คือเรื่องที่คนจำนวนมากได้ผนึกกำลังกันเพื่อสร้างความหวังและสันติภาพ"

หลิงยังได้แสดงความหวังว่าเรื่องราวของพวกเธอจะทำให้โลกหันมาสนใจนักข่าวที่ประสบชะตากรรมเดียวกันมากขึ้น

"ยูนากับฉันอาจจะโชคดีกว่านักข่าวคนอื่นๆที่ถูกจับกุมคุมขังเช่นกัน ตรงที่เรื่องราวตอนจบของพวกเราเป็นตอนจบแบบสุขนาฏกรรม แต่ก็ยังมีนักข่าวที่ถูกคุมขังอยู่ในหลายประเทศทั่วโลกยังไม่รู้ว่าชะตากรรมของตัวเองว่าจะออกหัวหรือก้อย เนื่องจากยังไม่มีการตัดสินโทษ"

ที่สำคัญยังไม่มีคนอาสาเป็นอัศวินขี่ม้าขาวไปช่วยเหมือนกับบิล คลินตัน