นินทาสื่อโลก-ธันวาคม 2559

นินทาสื่อโลก

บุญรัตน์  อภิชาติไตรสรณ์

 

*****กลองศึกเลือกตั้งชิงทำเนียบขาวครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นความจริงที่ฝังลึกมานานว่าแท้ที่จริงสื่อยักษ์เล็กยักษ์ใหญ่ของแดนดินถิ่นอินทรีผยองอเมริกาก็มีนอกมีในกับนักการเมืองไม่ใช่น้อย โดยเวบไซต์จอมแฉวิกิลีกส์เปิดโปงว่ามีนักข่าวมากถึง 38 คนถูกค่ายของนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคตราลาโมแครตซื้อตัวไปด้วยเงินก้อนใหญ่เพื่อให้เชียร์เธอคู่ไปกับการใส่ร้ายป้ายสีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรคตราช้างรีพับลิกัน

 

***** และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้สื่อยักษ์ใหญ่ต้องลงมือทำความสะอาดบ้านก่อนที่วิกฤติศรัทธาในสื่อจะยิ่งดำดิ่งมากกว่านี้  อย่างรายของซีเอ็นเอ็นที่ต้องประกาศเลิกจ้างดอนนา บราซิล ที่ร่วมงานกันมานานในฐานะนักวิเคราะห์การเมือง ฐานเป็นอีกาคาบข่าวนำคำถามล่วงหน้าไปบอกกล่าวให้ค่ายนางฮิลลารี คลินตันทราบล่วงหน้า จะได้เตรียมคำตอบๆได้ทัน โดยเฉพาะตอนก่อนการประชันวิสัยทัศน์สดๆทางโทรทัศน์กับ ส.ว.เบอร์นี แซนเดอร์ส ระหว่างชิงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ที่ซีเอ็นเอ็นเป็นเจ้าภาพ

 

*****แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ที่อุตสาหกรรมสื่อในสหรัฐจะถูกล้วงตับด้วยการแฮ็คหรือเจาะระบบข้อมูลต่างๆเสมอมา แต่น่าสังเกตว่ากลุ่มสื่อยักษ์ใหญ่อย่างนิวยอร์กไทม์สจะถูกแฮกข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายต่างๆของรัฐบาลมากเป็นพิเศษ๋ในช่วงการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเอฟบีไอและหน่วยงานความมั่นคงชี้เป้าตรงกันว่าเป็นฝัมือของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ที่เจาะข้อมูลลับของพรรคเดโมแครตแล้วคาบไปบอกค่ายของโดนัลด์ ทรัมป์

*****ผลพวงจากความพยายามจะยึดอำนาจประธานาธิบดีประธานาธิบดีเรเซฟ ตอยเยบ แอร์ดวน แห่งตุรกีแต่ไม่สำเร็จเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เปิดช่องให้ทางการลงมือตอบโต้ด้วยมาตรการกวาดจับครั้งใหญ่แทบจะล้างบางในทุกวงการที่เชื่อว่าเอี่ยวกับความพยายามยึดอำนาจ รวมไปถึงการจับนักข่าวรวมกันร่วมร้อยคน นอกเหนือจากสั่งปิดสื่อเกือบร้อยสำนัก ประกอบไปด้วยสำนักข่าว 3 สำนัก สถานีโทรทัศน์ 16 ช่อง หนังสือพิมพ์ 45 ฉบับ และนิตยสารอีก15 เล่ม

 

***** แม้จะถูกสื่อตะวันตกพยายามตอกไข่ใส่ข่าวว่าเป็นประนาธิบดีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน บางสื่อถึงกับพาดหัวว่าเป็นผู้นำที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องกรณีลงมือด้วยความเฉียบขาดในการกวาดล้างขบวนการยาเสพย์ติดด้วยการไฟเขียวให้ตำรวจสามารถวิสามัญฆาตกรรมพ่อค้ายาเสพย์ติดได้ แต่ในแวดวงสื่อสารมวลชนแล้ว ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต แห่งฟิลิปปินส์กลับสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้เต็มที่ด้วยการลงนามในกฎหมายเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร (เอฟโอไอ) บังคับให้สถานที่ราชการทุกแห่งอนุญาตให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลของรัฐได้เต็มที่เป็นครั้งแรกไม่ว่าจะเป็นเอกสาร บันทึก การประชุม การวิจัย และข้อมูลของทางราชการอื่นๆ ยกเว้นข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศเท่านั้น

 

*****ข่าวลือว่า”สงครามเย็น”กำลังหวนกลับมาเป็นรอบที่ 2 ส่อเค้าว่าจะเป็นจริง เห็นได้จากการที่รัฐบาลปากีสถานสั่งห้ามสถานีโทรทัศน์และวิทยุในประเทศ เผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับอินเดียทั้งหมด รวมไปถึงละครทีวีและภาพยนตร์บอลลีวู้ด ที่ ได้รับความนิยมสูงมากในหมู่ผู้ชมชาวปากีสถาน ถือเป็นหนึ่งในมาตรการตอบโต้กรณีมีเสียงเรียกร้องรัฐบาลนิวเดลี ให้สั่งห้ามดารานักแสดงปากีสถาน ทั้งชายและหญิง เข้าร่วมในอุตสาหกรรมภาพยนตร์บอลลีวู้ด

 

*****ยินดีด้วยกับ แคลร์ ฮอลลิงเวิร์ธ อดีตนักข่าวชาวอังกฤษที่อายุยืนยาวเป็นพิเศษ เพิ่งฉลองฉลองวันเกิดครบ 105 ปี ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในฮ่องกงเมื่อเร็วๆนี้ แคลร์ ฮอลลิงเวิร์ธ ได้สร้าวงเกียรติประวัติในฐานะเป็นนักข่าวคนแรกที่รายงานข่าวกองทัพนาซีบุกโปแลนด์เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 1939 อันเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2  ทั้งๆที่ที่ขณะนั้นเธอซึ่งมีอายุ 27 ปี เพิ่งทำงานเป็นนักข่าวสายต่างประเทศของหนังสือพิมพ์เดลี เทเลกราฟ ได้เพียง 3 วันเท่านั้น