แถลงการณ์ เรื่อง การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง

แถลงการณ์ เรื่อง การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง

ตามที่ได้มีการจัดชุมนุมทางการเมือง และมีมวลชนเข้าร่วมการชุมนุมเพิ่มมากขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในการชุมนุมของแต่ละฝ่ายแต่ละเวที แต่ทั้งนี้ในการชุมนุมดังกล่าวได้เกิดเหตุการณ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการรายงานข่าวการชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนิน ในคืนวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา ตลอดจนถึงคำประกาศของแกนนำการชุมนุมที่จะยกระดับการชุมนุม โดยการเคลื่อนขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมไปยังสถานีโทรทัศน์ ช่อง ๓, ๕, ๗, ๙ และ NBT และสถานที่ราชการต่างๆ

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องนำผู้ชุมนุมไปยังสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวว่า เพราะสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงได้และสุ่มเสียงทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการใช้กำลังกดดันหรือคุกคามการหน้าที่ของสื่อ   ทั้งนี้หากผู้ชุมนุมจากทุกกลุ่มไม่พอใจการทำหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์แต่ละช่อง แกนนำผู้ชุมนุม สามารถส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือกับผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ได้โดยตรง รวมทั้งทำหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยที่มีหน้าที่กำกับสื่อโทรทัศน์และวิทยุโดยตรงได้

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ขอเรียกร้องต่อแกนนำและผู้เข้าร่วมชุมนุมให้เข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ให้สามารถทำหน้าที่การนำเสนอข่าวได้อย่างอิสระ อันจะสามารถนำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน และขอให้สื่อมวลชนทุกแขนง ทำหน้าที่การรายงานข่าวสารข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากทุกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนสามารถรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านมากที่สุดเพื่อประกอบการตัดสินใจใดๆ

รวมทั้งขอให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าผู้ประกอบวิชาชีพสื่อ ซึ่งประกอบด้วย สื่อมวลชน ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ทำหน้าที่รายงานข่าวและข้อเท็จจริงตามหน้าที่ของตนไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรตกเป็นเป้าหมายของการข่มขู่ คุกคามและแทรกแซงไม่ว่าจากฝ่ายใดและผู้ชุมนุมจากทุกกลุ่มไม่ควรปิดล้อมการทำหน้าที่ของนักข่าวในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ จะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่สามารถรับรู้ข่าวสารข้อมูลและข้อเท็จจริงได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

ทั้งนี้ การนำเสนอข่าวการชุมนุมทางการเมืองอาจไม่เป็นที่พอใจต่อผู้ชุมนุมแต่ละฝ่าย อันเนื่องมาข้อเท็จจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อาจไม่เป็นไปตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมคาดหวัง ซึ่งในเรื่องนี้เราขอยืนยันว่าการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนได้พยายามสะท้อนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสถานการณ์อย่างถึงที่สุด เพราะเราตระหนักอยู่เสมอว่าการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในภาคสนามคือผู้ที่อยู่ใกล้ข้อเท็จจริงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมิสามารถบิดเบือนเป็นอื่นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสื่อมวลชนเองก็ตระหนักว่าการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและการตัดสินใจ เป็นสิทธิการเลือกรับข่าวสารของประชาชน

ในสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองของฝ่ายต่างๆ ที่ดำรงอยู่ในขณะนี้ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ขอสนับสนุนให้สื่อมวลชนทำหน้าที่โดยยึดมั่นในกรอบจริยธรรมวิชาชีพของสื่อมวลชนอย่างเคร่งครัด ด้วยการนำเสนอข่าวอย่างรอบด้านและให้กำลังใจกับทุกคนที่ทำหน้าที่ทุกสนามข่าว และขอเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ใช้ความระมัดระวังในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ต้องไม่ใช้สื่อของรัฐปลุกระดมให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ทั้งนี้ ขอให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ตามที่ได้ประกาศไว้ต่อสาธารณะ

 

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖