นินทาสื่อโลก

นินทาสื่อโลก

บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์

***** “ศึกสื่อเทพและสื่อมารสะท้านภพ” น่าจะชื่อที่เหมาะสมที่สุดกับบทบาทของสื่อเทศในสถานการณ์วิกฤติในไทยแลนด์แดนแค่นยิ้ม เพราะแทบไม่มีครั้งใดในประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ ที่สื่อต่างชาติโดยเฉพาะสื่อตะวันตกจะเปิดเผยตัวตนชัดเจนเหมือนเช่นครั้งนี้ว่าแท้ที่จริงเป็นเพียงแค่ “สื่อมาร” สื่อขายตัวที่กระหายหิวแต่เงินก้อนโต จนกล้าโยนตำราว่าด้วย “จรรยาบรรณ “ทิ้ง ปล่อยให้สื่อโง่ๆในประเทศกำลังพัฒนากอดตำราแน่นแต่เพียงฝ่ายเดียวไปเถอะ

 

*****ไม่เพียงแต่โยนตำรา “จรรยาบรรณสื่อ”ทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังพิสูจน์ให้เห็นถึง “ทฤษฎีสมคบคิด”ของสื่อตะวันตกไม่ว่าจะเป็นเอพี,เอเอฟพี,รอยเตอร์,บีบีซีและซีเอ็นเอ็น ซึ่งตอนหลังมีสำนักข่าวซินหัวของจีนและอัล จาซีราของอาหรับมาร่วมวงด้วย ช่วยกันนั่งเทียนเทียนข่าวบิดเบือนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะบิดเบือนการต่อสู้ตามกรอบกฎหมายว่าเป็นการทำลายประชาธิปไตยโดยพวก“นิยมเจ้า” หรือเป็นการปะทะกันระหว่างคนไทยชนบทผู้ยากไร้ กับชนชั้นกลางในเมือง

 

*****ตัวอย่างการบิดเบือนที่เห็นได้ชัดก็คือการบอกตัวเลขของคนที่เข้าร่วมการเดินขบวนครั้งใหญ่หลายครั้งว่ามีแค่ไม่กี่พันคนหรือแค่หลักหมื่นต้นๆโดยอ้างถ้อยแถลงของรัฐบาล ทั้งๆที่หน้าที่ของนักข่าวก็คือต้องออกไปดูด้วยตาตัวเองแล้วรายงานตามสถานการณ์ที่เป็นจริงให้สมกับเป็นสื่อมืออาชีพ จะได้ไม่หน้าแตกครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อภาพถ่ายดาวเทียมชี้ชัดว่าจำนวนผู้ประท้วงมีมากกว่าหนึ่งล้านคน

 

*****ไม่ต้องพูดไกลไปถึงการจงใจนำเสนอแต่ข่าวด้านเดียวคือข่าวของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บางสื่อยังป้อยอถึงขั้นยกย่องว่าเป็นผู้ “ปกป้องประชาธิปไตย”รวมทั้งยังจงใจแทรกแซงกิจการภายในของไทยด้วยการมุ่งนำเสนอแต่ประเด็นที่ว่าคนไทยควรจะไปเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. โดยไม่สนใจเหตุผลที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องการ “การปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง” หรือไม่เอะใจจนน่าจะนำไปวิเคราะห์ว่าเหตุใดการชุมนุมยืดเยื้อนานหลายเดือนจึงเป็นไปด้วยความสงบและอหิงสา ผิดกับที่เกิดขึ้นทั่วโลกซึ่งมักจะมีความรุนแรงแทรกซ้อนอยู่เสมอ

 

*****ภาพของ “สื่อมารนอกรีต” คงจะไม่ชัดเจนหากไม่นำไปเปรียบเทียบกับการนำเสนอข่าวการประท้วงขับไล่รัฐบาลที่ยูเครน ซึ่งเกิดขึ้นไล่เลี่ยกันแต่กลับเต็มไปด้วยความรุนแงและการนองเลือด จนมีคนตาย-เจ็บนับร้อยคน แต่สื่อตะวันตกกลับเรียกร้องให้ชาวยูเครนรวมพลังกันล้มรัฐบาลให้ได้เพียงเพราะรัฐบาลนี้เตรียมจะหันไปซบออกรัสเซียแทนอียูเท่านั้นเอง


*****ว่ากันว่าหนึ่งใน “จอมมารสะท้านภพ”ที่เป็นคนป้อนข่าวเท็จและข่าวลวงโลกให้กับสื่อตะวันตกโดยเฉพาะซีเอ็นเอ็น,บีบีซีและนิตยสารฟอรีน โพลิซี รวมทั้งสำนักข่าวอื่นๆที่ยินดีลอกข่าวโดยไม่ตั้งคำถามใดๆ แถมยังยกย่องว่านักข่าวอิสระและนักเขียนที่รู้เรื่องเมืองไทยดีก็คือ แอนดรูว์ แม็คเกรเกอร์ มาร์แชลล์ อดีตบรรณาธิการอาวุโสของรอยเตอรส์ ซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่เป็นมือปืนรับจ้างให้กับบริษัทอัมสเตอร์ดัม แอนด์ พาร์ทเนอรส์ ของโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ล็อบบี้ยิสต์ผู้มีลูกค้ารายใหญ่ชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกผู้ชักใยเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นภายใต้แผนใช้สื่อตะวันตกช่วยกันล้อมประเทศไทย

 

*****นอกเหนือจากใช้บริการของอัมสเตอร์ดัมแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังใช้บริการของบริษัท เบลล์ พ็อตทิงเจอร์ บริษัทพีอาร์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของอังกฤษให้ช่วยทำหน้าที่ปั้นภาพลักษณ์ของตัวเองและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ดูดีในสายตาของชาวโลก


*****เมื่อมีสื่อมารก็ย่อมมีสื่อเทพ โดยผู้ที่ได้รับยกย่องว่าหัวหน้าสื่อเทพก็คือ“ไมเคิล ยอน”  นักข่าว ช่างภาพและนักเขียนชาวอเมริกันผู้เคยผ่านสมรภูมินรกมาแล้วหลายสมรภูมิรวมไปถึงที่อิรักและอัฟกานิสถาน คราวนี้ได้ลุยเดี่ยวออกมาตอบโต้สื่อมารรวมทั้งวิพากษ์การเมืองไทยได้อย่างลุ่มลึก ไมเคิล ยอน ยังได้ฟันธงฉับว่าต้นตอของปัญหาทั้งมวลมาจากคนๆเดียวคือพ.ต.ท.ทักษิณซึ่งไม่เคยห่วงใย หรือทำเพื่อประชาชนเลย นโยบายประชานิยมทุกอย่างท้ายสุดก็ย้อนกลับมาที่เงินหรืออำนาจของทักษิณอย่างเดียวเท่านั้น หัวหน้าสื่อเทพเคยเผยว่า ถ้ามีโอกาสสัมภาษณ์พ.ต.ท.ทักษิณก็จะถามแค่ข้อเดียวว่า “ ทำร้ายประเทศไทยทำไม!”


*****ส่วนสื่อเทพอื่นๆที่ช่วยกันแฉความชั่วช้าของกลุ่มทุนสามานย์ในอเมริกาที่ประสานประโยชน์กับระบอบทักษิณ อาทิ รัสเซียน ทูเดย์ ซึ่งเปิดโปง “บริษัทเผด็จการทรราชทักษิณ” จนหมดเปลือกโดยเฉพาะการขายทรัพย์สินของไทยให้กับนายทุนสามานย์ชาวอเมริกัน

 

***** ขณะที่โกลบอล รีเสิร์ช ของแคนาดา และ เพรส ทีวี  ของอิหร่านได้ร่วมกันเปิดโปงกองกำลังเถื่อนติดอาวุธจากกัมพูชาและชายชุดดำที่ทักษิณเคยใช้ก่อการร้ายในปี 2553  ที่เตรียมพร้อมจะสร้างสถานการณ์เลวร้ายขึ้นในที่ชุมนุม นำไปสู่สงครามกลางเมือง”