ข่าวกระชากหน้ากากตำรวจร่วมขบวนการ ค้า“งาช้าง-นอแรด”ข้ามชาติ-เดลินิวส์-2556

ผลงานส่งเข้าประกวดรางวัลอิศรา อมันตกุล ประจำปี 2556

กระชากหน้ากากตำรวจร่วมขบวนการ ค้า“งาช้าง-นอแรด”ข้ามชาติ

 

กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

จุดเริ่มต้นของการตรวจสอบ

ช่วงตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2555  กองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ได้นำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวในแวดวงรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและซากสัตว์ป่า โดยเฉพาะที่องค์การกองทุนสัตว์ ป่าโลกสากล หรือ กองทุนสัตว์ป่าโลก(WWF) เปิดรายงานสถานการณ์การค้าสัตว์ป่าและซากสัตว์ป่าในหลายประเทศทั้งในทวีปแอฟริกา-เอเชีย ที่มีการลักลอบค้ากันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์มีชีวิต หรือซากสัตว์ป่าที่ได้รับความนิยมมีทั้ง งาช้าง, นอแรด, อวัยวะของเสือ ที่น่าสนใจคือ ประเทศไทย ถูกระบุว่าเป็นแหล่งทางผ่าน การค้างาช้างและนอแรดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง รวมทั้งชี้หลายประเทศในเอเชียล้มเหลวในการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามขบวนการค้าซากสัตว์ป่าอย่างจริงจัง

ประกอบกับต้นเดือนมีนาคมปี พ.ศ. 2556 ประเทศไทย รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพการจัด ประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 ( ระหว่างวันที่ 3-14 มี.ค. 2556) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์   ซึ่งมีผู้แทนประเทศกว่า 2,000 คน และหน่วยงานด้านองค์กรอนุรักษ์ทั่วโลกประมาณ 40 องค์กรเข้าร่วม ด้วยเหตุสำคัญนี้เอง กองบรรณาธิการข่าว นสพ.เดลินิวส์ มองว่าการประชุมครั้งนี้จะมีการหยิบยกประเด็นการค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ มาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน ในที่ประชุมโต๊ะข่าวประจำวัน จึงให้ความสำคัญเรื่องนี้เพราะเป็นเห็นเป็นเรื่องระดับโลก จึงควรเกาะติดข่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมตั้งสมมุติฐานว่าปัญหานี้อาจจะมีการเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการด้วย จึงให้เกาะติดข่าวชิ้นนี้ทุกแง่มุมเป็นพิเศษ

 

การดำเนินการตรวจสอบ

กระทั่งมาเกิดเหตุ ช่วงคืนวันที่ 6 ม.ค.56 ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร จับกุมชาวเวียดนามลักลอบขน “นอแรด” มาจากประเทศเอธิโอเปีย น้ำหนักรวม 10.6 กิโลกรัม (มูลค่าประมาณ 18 ล้านบาท) ซุกซ่อนอยู่ในตุ๊กตาฮิบโปโปเตมัส  บรรจุใส่กระเป๋าเดินทางมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีข้อหานำของต้องห้ามประเภทซากสัตว์ป่าคุ้มครองเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต  เจ้าหน้าที่แถลงข่าวสื่อมวลชนตามปกติ

แต่มีนสพ.เดลินิวส์ เพียงฉบับเดียวเท่านั้นที่ได้ “ประเด็นเดี่ยว” ว่า คดีดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปร่วมเกี่ยวข้องด้วยจึงนำไปสู่การตรวจสอบเกาะติดอย่างต่อเนื่องทันที เพราะเป็นไปตามสมมุติฐานที่ทางกองบรรณาธิการเคยตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ !!

ก่อนจะมีการการเปิดโปงขบวนการค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาตินี้ ทีมข่าวอาชญากรรมเดลินิวส์ ได้หลักฐานเด็ด เป็น “ภาพทีวีวงจรปิด” ที่บันทึกภาพกลุ่มคนมีสี ตอนแรกยังไม่ทราบว่าเป็นสังกัดหน่วยงานใด เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ในระหว่างที่เดลินิวส์กำลังนำเสนอข่าว เปิดโปงขบวนการค้านอแรดว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปร่วมขบวนการด้วยนั้น ถัดมาเพียงเดือนเศษปรากฏว่า ในช่วงต้นเดือนก.พ. นายตำรวจยศ “ร.ต.อ.” ถูกจับกุมได้ที่จุดตรวจ จ.ชุมพร ขณะขับรถตู้ตำรวจ ทะเบียนตราโล่ แอบลักลอบขน “งาช้าง”จำนวน 10 คู่ รวม 20 กิ่ง มูลค่าสูงถึง 10 ล้านบาท มาจากชายแดนภาคใต้ การจับกุมตำรวจได้แบบคาหนังคาเขา ว่าเข้าไปมีส่วนพัวพันร่วมขบวนการค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ จึงถือว่าเป็นไปตามสมมุติฐานที่เดลินิวส์ตั้งธงเอาไว้

จากการเกาะติดข่าว ค้านอแรด ก็ทำให้มีข่าวค้างาช้าง เข้ามาเพิ่มอีก จึงเป็นการตีแผ่ให้เห็นว่าเป็นขบวนการค้าซากสัตว์ป่า ไม่ใช่ขบวนการธรรมดา แต่เป็น แก๊งอาชญากรรมระดับโลก ที่กำลังเติบโตรองจากแก๊งค้ายาเสพติด  มีเครือข่ายโยงใยทั้งในทวีปแอฟริกาและทวีปเอเชีย  หลังจากตำรวจปทส. ที่เข้าไปรับผิดชอบคดีค้านอแรก รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆอย่างรัดกุมจึงได้นำไปสู่การออกหมายจับพร้อมจับกุม 3 ตำรวจ ผบ.หมู่ งานสืบสวน สภ.สุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ที่ปรากฏอยู่ในภาพวงจรปิด ตั้งแต่การเข็นกระเป๋ามาเข้าเครื่องเอกซเรย์

การะเจาะลึกทำข่าวของทีมอาชญากรรมเดลินิวส์จึงสามารถตีแผ่ขบวนการนี้ให้สังคมได้รับทราบพบว่า ทั้งสองคดีมีความเชื่อมโยงกัน มีลักษณะเป็น องค์กรใหญ่ แบ่งงานกันทำ  ไล่ตั้งแต่ นายทุน, ผู้กว้านซื้อ (รวมของ),  ผู้รับขนส่ง, ผู้ลาดตระเวน (คุ้มกัน), ผู้ประสานงาน,  ผู้ส่งของออก ฯลฯ เป็นขบวนการใหญ่ระดับชาติ ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน มีเจ้าหน้าที่บางคนเห็นแก่ได้เข้าไปร่วมขบวนการเพราะรายได้ที่งดงามแล้ว แต่บทลงโทษยังค่อนข้างเบา ประเด็นนี้ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช  ได้เดินหน้าเสนอบทลงโทษหากพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการล่าซากสัตว์ป่า จากเดิมมีบทลงโทษ ปรับ 40,000 บาท หรือจำคุก 4 ปี ให้รุนแรงมากกว่าเดิม

 

ผลกระทบ-คุณค่าของข่าว

การนำเสนอข่าวคดีนี้อย่างละเอียด ได้สร้างปรากฏการณ์ให้หลายหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ และกรมอุทยานฯได้ตื่นตัวและเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาการค้าสัตว์ป่าเป็นเรื่องระดับประเทศ อีกทั้งทั่วโลกต่างให้ความสนใจถึงขั้น ดาราภาพยนตร์ฮอลลีวูด “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” ร่วมเรียกร้องให้ รัฐบาลไทย คุมเข้มปัญหาการค้างาช้างในประเทศ จนทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ประกาศกลางที่ประชุมไซเตส ครั้งที่ 16 ให้สัญญาที่จะแก้กฎหมายเพื่อยุติการค้างาช้างในประเทศไทยและตัดช่องทางของขบวนการค้าสัตว์ป่าโลก

ทีมข่าวเดลินิวส์ ในฐานะสื่อมวลชนคนทำข่าว ที่มีโอกาสได้เจาะลึกจากข่าวอาชญากรรมธรรมดาๆ ได้นำเสนอต่อเนื่องขยับประเด็นจนพบว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมระดับโลก ถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลางตีแผ่เรื่องราวและการเปิดโปงขบวนการค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ รวมทั้งนำเสนอปัญหาของขบวนการดังกล่าวในหลายแง่มุมให้สังคมได้รับรู้ และยังช่วยกระตุ้นให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำไปสู่แนวทางการผลักดันแก้กฎหมายเพิ่มโทษ อย่างไรก็ตามขั้นตอนของกระบวนการแก้กฎหมายนั้นยังไม่สิ้นสุดต้องใช้ระยะเวลา ท้ายที่สุดเชื่อว่า การแก้กฎหมายเพิ่มโทษขบวนการค้าสัตว์ป่าจะผ่านไปลุล่วงด้วยดี