ข่าวเจาะคดีอุ้มฆ่า “เอกยุทธ อัญชันบุตร” ใบสั่งการเมือง-เอเอสทีวีผู้จัดการ-2556

ข่าวเจาะคดีอุ้มฆ่า "เอกยุทธ อัญชันบุตร" ใบสั่งการเมือง

หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ

คดีฆาตกรรมเอกยุทธ อัญชันบุตร อดีตนักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังครั้งนี้เริ่มมาแดงขึ้นเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2556 โดยพี่สาวของเอกยุทธ ได้เข้าแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง ว่านายเอกยุทธได้หายตัวไปไม่ทราบสาเหตุ จนเริ่มเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมาติดต่อกันเป็นเวลากว่า 3 เดือน จนตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาทั้งหมดได้และเข้าสู่ระบบพิจารณาตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในเบื้องต้น

ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ได้นำเสนอข่าวการหายตัวไปของเอกยุทธผ่านทาง www.manager.co.thทันที (00.00 - 02.00 น.วันทื่ 10 ม.ค.56)เรียกว่าเป็นสื่อออนไลน์สื่อแรกที่นำเสนอข่าวการหายตัวไปของเอกยุทธจนทำให้ประเด็นการหายตัวของนายเอกยุทธขยายเป็นวงกว้าง

ประเด็นสำคัญนี้หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน นำเสนอข่าวและบทวิเคราะห์อย่างเจาะลึกถึงเงื่อนงำการให้สัมภาษณ์ของนายตำรวจ ระดับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ว่ามีเหตุผลอะไรถึงต้องมีการปิดบังประเด็นดังกล่าวด้วยเหตุผลบางประการหรือไม่ จุดนี้เป็นข้อพิรุธเป็นอย่างมากที่นายตำรวจระดับสูงที่ให้ข้อมูลคดีสำคัญๆ เช่นนี้ไม่ตรงกัน จากข้อมูลเชิงลึก ASTV ผู้จัดการรายวัน เป็นหนังสือพิมพ์ฉบับแรกที่นำเสนอข่าวว่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร อดีตนักธุรกิจชื่อดังได้ถูกแก๊งคนร้าย "อุ้มฆ่าโหด" ในขณะที่ยังมีความอึมครึมสงสัยว่านายเอกยุทธ อาจอุ้มตัวเองตามคำบอกเล่าของนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง คนขับรถที่ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจวกวน

ผลของการนำเสนอข่าวคดีฆาตรกรรมนายเอกยุทธ อัญชันบุตร :

ศาลอาญาได้ประทับรับฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นคดีหมายเลขดำ อ. 3307/2556 และอยู่ในกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลซึ่งต้องติดตามกันต่อไป ว่าผู้ต้องหาทั้งหมดจะได้รับโทษทัณฑ์ตามกฏหมายอย่างไร.

บทสรุป เส้นทางข่าวตั้งแต่ต้นจนผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

แม้ว่าผู้ต้องหาทั้งหมดจะให้การรับสารภาพ แต่ในการนำเสนอข่าวและสืบค้นข้อมูลเชิงลึกของ หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน ,นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดห์ และwww.manager.co.th ที่ได้รายงานแบบเกาะติด เจาะลึกข้อมูลมาโดยตลอดจึงทำให้สังคมและประชาชนที่สนใจในประเด็นคดีฆาตรกรรมนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ในครั้งนี้ ได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องมีเหตุและผลให้สามารถวิเคราะห์และไตร่ตรองข้อมูลตามได้ว่าการฆาตกรรมนายเอกยุทธครั้งนี้มีเหตุผลสำคัญหลายประการ ที่น่าจะเป็นชนวนสั่งตายนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นอกเหนือสำนวนสอบสวนปิดคดีของตำรวจที่ปิดคดีเป็นการฆาตกรรรมชิงทรัพย์ธรรมดาทั่วไปและทำให้ทราบได้ว่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร ถูกฆาตกรรมด้วยท่าพิเศษโดยการล็อคจากด้านหลัง โดย ผบช.น.ไม่สามารถให้ความกระจ่างชัดใน 13 ข้อสงสัยของนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความ ต่อสังคมได้

เทคนิคพิเศษในการทำข่าวคดีฆาตกรรมเอกยุทธ อัญชันบุตร

โทรศัพท์เช็กข้อมูลเชิงลึกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนที่เกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จนได้ข้อมูลภาพกล้องวงจรปิดรถตู้นายเอกยุทธถูกขับลงภาคใต้อันเป็นส่วนสำคัญให้การสืบสวนสามารถจับกุมคนร้ายได้และใช้เทคนิคภาพวาดการ์ตูน โดยทีมงานผู้จัดกวน จำลองภาพและประมวลเหตุการณ์ฆาตกรรมนายเอกยุทธได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน

หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน ได้สืบค้นข้อมูลเชิงลึกประเด็นการสังหารนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ตั้งแต่เริ่มต้นแบบเจาะลึกเกาะติด กระทั่งนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความที่ตั้งข้อสังเกตไว้และข้อสงสัยเคลือบแคลงใจของสังคมว่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร ถูกฆาตกรรมด้วยท่าพิเศษล็อคจากด้านหลัง โดยมีประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองในอดีตที่นายเอกยุทธ อัญชันบุตร เคยนำข้อมูลมาเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตลอดจนการออกมาแฉกรณีข่าว ฉาว สนั่นประเทศไทย กรณี ว.5 โฟร์ซีซั่น ตลอดจนการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเรื่อง "น้ำแตกที่มัลดิฟส์"จนเป็นข่าวโด่งดังตามสื่อแขนงต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนายเอกยุทธ มากกว่าประเด็นการฆาตกรรมชิงทรัพย์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปปิดสำนวนคดี

ส่วนการพิจารณาความผิดของผู้ต้องหาทั้งหมดจะเป็นไปตามสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนที่ส่งฟ้องต่ออัยการพิจารณาลงความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งตามข้อกล่าวหา ว่าร่วมกันฆาตกรรมนายเอกยุทธโดยประสงค์ต่อทรัพย์ ฯลฯหรือไม่ คงต้องไปรอลุ้นกันในชั้นศาล กับประเด็นทิ้งทุ่นระเบิดของนายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้ช่วยทนายความของนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความ ซึ่งเป็นคนจังหวัดพัทลุง บ้านเดียวกับนายสันติภาพ ระบุว่านายสันติภาพพร้อมที่จะเปิดเผยความจริงทั้งหมดในชั้นศาล คงต้องรอดูกัน อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน ยังเชื่อมั่นในความถูกต้องในสังคมต้องปรากฏออกมาวันหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะว่า "ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"