ติงสื่อนอกแหกคอก ผิดพรบ.เด็ก ลั่นต้องเคารพกฎหมายไทย

พมจ.เชียงราย เผย สื่อนอกแอบสัมภาษณ์  ไม่ขออนุญาต เข้าข่ายความผิดพรบ.คุ้มครองเด็ก ชี้ถ้าคุมไม่อยู่ อาจขออำนาจศาลออกคำสั่งห้ามสื่อเข้าใกล้ทีมหมูป่าชั่วขณะ เพื่อฟื้นฟูจิตใจ นายอำเภอแม่สายติง เคารพกฎหมายไทย ยิ่งเป็นประเทศเจริญแล้วต้องปฏิบัติตาม  รองปลัดยธ.ชมสื่อไทย มีสำนึก รับผิดชอบ

 

กรณีสื่อต่างประเทศบางสำนักลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์พิเศษสมาชิกทีมฟุตบอลหมู่ป่าอะคะดามี่ ที่บ้านพัก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ฝ่าฝืนคำร้องของรัฐบาล ที่เกรงว่าจะกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล และการฟื้นฟูจิตใจนั้น ได้ก่อให้เสียงวิพากษ์ตำหนิอย่างรุนแรงว่าไม่สมควร และไม่มีความความรับผิดชอบ

น.ส.อณิรา ธินนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เชียงราย (พมจ.เชียงราย) กล่าวว่า สื่อต่างประเทศที่สัมภาษณ์เด็กทีมหมูป่า ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ และได้เข้าไปในช่วงที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ทางอำเภอมอบหมายให้อยู่ ซึ่งโดยหลักเจ้าหน้าที่จะแวะเวียนไปดูแล จะไม่ควบคุม 24 ชั่วโมง เนื่องจากทางจังหวัดอยากให้เด็กใช้ชีวิตอยู่ได้ตามปกติ ไม่ใช่มีคนไปเฝ้า เพราะจะเป็นการละเมิดเด็กซ้ำ  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กำลังรวบรวมว่า สื่อต่างประเทศได้เข้าไปสัมภาษณ์เรื่องอะไร แล้วมีผลต่อเด็กและครอบครัวหรือไม่ เท่าที่ตรวจสอบได้มีสื่อต่างประเทศสองรายเข้าไปสัมภาษณ์เด็ก  จากนี้ก็จะคุยกับผู้ปกครองและสื่อว่า ทางจังหวัดได้ขอร้องสื่อแล้วในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ อยากให้เข้าสู่ภาวะปกติก่อน ไม่ควรไปทำข่าวหรือสัมภาษณ์เด็ก

น.ส.อณิรา กล่าวว่า หากยังควบคุมไม่ได้  ก็จำเป็นที่จะต้องอาศัยอำนาจจังหวัดออกคำสั่งเรื่องการคุ้มครองเด็ก  ซึ่งต้องขออำนาจจากศาลก่อนเพื่อกำหนดว่า ใครที่เป็นภัยต่อเด็ก ก็ห้ามเข้าใกล้ ตรงนี้จะรอผลประชุมกับทีมสหวิชาชีพคุ้มครองเด็ก ก่อนประกอบด้วย นายอำเภอ เป็นประธาน มีฝ่ายกฎหมาย นักสังคม ฝ่ายสิทธิ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับเด็ก

“อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ระบุก่อนหน้านี้ว่า เมื่อเราขอร้องแล้วสื่อ แต่ยังไปถามเด็กและถ้าเกิดความเสียหายขึ้น สื่อก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายคุ้มครองเด็ก มาตรา 27 ในเรื่องของการเผยแพร่ ซึ่งไม่เว้นสื่อต่างชาติ เนื่องจากเขามาทำข่าวบ้านเรา ผู้เสียหายก็อยู่บ้านเรา" พมจ.เชียงราย กล่าว

นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย  ที่ผ่านมาเราจัดกำลังดูแลในพื้นที่ แต่สื่อต่างประเทศที่ไปสัมภาษณ์ไม่มีการขออนุญาตทางอำเภอ เรื่องนี้เป็นมารยาทของสื่อที่ต้องรู้ว่า เด็กต้องการการพักผ่อน การไปสัมภาษณ์เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ฉะนั้น  สมาคมสื่อควรที่จะตักเตือน ในส่วนของผู้ปกครองก็ไม่ได้แจ้งทางทีมงานในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาเราเคยขอความร่วมมือผู้ปกครองไปแล้วในเรื่องการงดให้สัมภาษณ์

"มันเป็นความสำนึกในหน้าที่ สื่อก็รู้อยู่แล้ว อะไรควรทำไม่ควรทำ และสื่อต่างประเทศก็อย่าคิดว่าทำงานอิสระ เพราะเวลาเราไปประเทศเขา  เรายังเคารพกฎหมายเขา มาบ้านเราก็ต้องเคารพกฎกติกาประเทศเรา ยิ่งคนเจริญแล้วก็ต้องเคารพกฎเกณฑ์ตรงนี้ด้วย" นายอำเภอแม่สาย กล่าว

นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สื่อต่างประเทศที่ทำอย่างนี้ถือว่า ต่ำกว่ามาตรฐาน และไร้สามัญสำนึกและความรับผิดชอบ เดิมทีเข้าใจว่า สื่อต่างประเทศมีระดับมาตรฐานที่เข้าใจเรื่องสิทธิเด็กดีอยู่แล้ว ฉะนั้น ต้องแสดงความรับผิดชอบ เพราะเป็นสิ่งไม่ควรทำ รู้อยู่แล้วว่า เด็กอยู่ในช่วงฟื้่นฟูจากภัยพิบัติ อย่างไรก็ดี ขอขอบคุณสื่อไทยที่ไม่ขยายต่อ ถือว่า มีสามัญสำนึกและความรับผิดชอบที่ดี สื่อต่างประเทศบางสำนักเริ่มต่ำกว่ามาตรฐาน และขาดความสามัญที่คนธรรมดาพึงระลึกได้

"การสัมภาษณ์แบบไหนก็แล้วแต่มันไม่ควรทำ ไม่อย่างนั้นเราจะมาให้สัมภาษณ์รวมกันทีเดียวทำไม ถามว่า ถ้าต่อไปเกิดความเสียหายต่อเด็ก จากคำถามบางคำถาม ที่ทำให้เด็กหลุดออกมาแล้ววิน เหมือนคนที่ถูกข่มขืน ที่เมื่อตำรวจสอบปากคำ อัยการ ศาล สอบเด็ก ถามย้ำไปมา มันก็เหมือนถูกกระทำชำเราซ้ำ เปิดบาดแผล" นายธวัชชัย กล่าว

นายธวัชชัย กล่าวว่า  การที่สื่อจะไปสัมภาษณ์พ่อแม่ หรือ เด็ก ก็ต้องแจ้งหน่วยงานในพื้นที่ก่อน  ยิ่งการทำอะไรกับเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี  ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะก็ยิ่งไม่ควร เด็กเป็นผู้ประสบภัยด้วย ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่ระดับครอบครัว หากเด็กป่วยก็ต้องใช้ทรัพยากรของรัฐรักษา และเราก็ต้องการให้เขาเติบโตอย่างมีคุณค่า ยิ่งขณะนี้เราไม่รู้ว่า ตะกอนใจของเด็กมีอะไรบ้าง และการก่อรูปแปลงร่างของโรคซึมเศร้าในช่วง 1-2 ปีเราต้องดูอย่างใกล้ชิด

รองปลัดยุติธรรม กล่าวว่า  การไปถามเรื่องวิธีออกจากถ้ำ ถูกฉีดยาประเภทไหนเพื่อเปิดประเด็นเป็นเรื่องไม่เหมาะ ยาที่ฉีดให้เด็กอาจเป็นยากันเครียด ไม่ให้เด็กกระวนกระวาย ตรงนี้ไม่ต้องสนใจเพราะเด็กรอดมาแล้ว อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังถอดบทเรียนอยู่ ว่า ต่อไปถ้ามีปัญหาติดถ้ำแบบนี้ ก็อาจใช้แนวทางนี้อีก การถามบางอย่างมันเป็นเรื่องทางเทคนิคและอ่อนไหวมาก

นพ.สมัย ศิริทองถาวร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต  กล่าวว่า การที่สื่อต่างประเทศไปสัมภาษณ์อย่างนั้นไม่เหมาะ  อย่างครั้งที่แล้ว สื่อรวมคำถามครั้งเดียวแล้วถามทีมหมูป่าถือว่าออกมาดี  แต่ถ้าต่างคนต่างถามเหมือนลงพื้นที่ก็คงจะวุ่นวาย  และเด็กแต่คนละคนก็จะมีความเห็นแตกต่างกันไป สุดท้ายอาจกระทบเป็นผลเสียต่อเด็ก  และล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของเด็ก

รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นต้องอาศัยทีมงานในพื้นที่ต้องคอยดูแล ซึ่งทางรพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ สาธารณสุขจขังหวัดก็จัดทีมดูแลอยู่ แต่กรณีนี้อาจไม่ทันได้รู้ตัวก่อน ดังนั้น ฝากสื่อด้วยถ้ามีคนแปลกปลอมเข้ามาให้ช่วยแจ้งทีมงานในพื้นที่ด้วย รวมถึงคนในพื้นที่ที่ต้องช่วยกันสร้างแนวป้องกันเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ความจริงหมอที่แถลงวันนั้นก็บอกว่า ขอความเป็นส่วนตัวให้กับเด็กระดับหนึ่้งก่อน