สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯจัดอบรมการปฏิบัติงานข่าว กรณีการชุมนุมทางการเมือง

วันที่ 26 ส.ค. ที่โรงแรมไมด้าแกรนด์ ทวารวดี จ.นครปฐม นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการโครงการฯ เปิดเผยถึง การจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การปฏิบัติงานข่าว : กรณีการชุมนุมทางการเมือง” ระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค. ว่า ทางสมาคมฯได้ร่วมกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เล็งเห็นถึงความสำคัญในความปลอดภัยและสวัสดิภาพของสื่อมวลชน ที่ต้องเข้าพื้นที่รายงานข่าวในสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่มีแนวโน้มขัดแย้งรุนแรงนำไปสู่ภาวะวิกฤต ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นมีองค์ประกอบจากหลายฝ่าย มีความเสี่ยงที่จะได้รับความสูญเสียทั้งร่างกาย และทรัพย์สิน รวมทั้งในสถานการณ์ปัจจุบันมีสาธารณภัยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และให้สื่อมวลชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและจัดการกับข่าวปลอม (Fake News)  สกัดกั้นวาทกรรมที่เพิ่มความขัดแย้งให้กับสังคม ด้วยวิธีการนำเสนอข่าวอย่างมืออาชีพภายใต้กรอบจริยธรรม จรรยาบรรณ อีกทั้งในขณะที่วงการสื่อสารมวลชนเข้าสู่ยุคดิจิทัลมีเกิดสื่อใหม่ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ ขณะที่สื่อดั้งเดิม ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ต้องปรับตัวสู่ออนไลน์ไปในรูปแบบการหลอมรวมสื่อไปหมดแล้ว

นายจีรพงษ์  กล่าวอีกว่า ดังนั้นการรายงานข่าวของสื่อมวลชนในสนามข่าว คือ เป็น นายทวารข่าวสารด่านแรก ที่จะต้องนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง ให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนสำหรับการปฏิบัติตัวในเหตุการณ์ต่างๆ อย่างถูกวิธี รวมถึงสื่อมวลชนในสนาม ต้องสามารถปฏิบัติตัวในพื้นที่ให้อยู่ในภาวะที่ปลอดภัยกับตัวเองในภัยคุกคามต่างๆ 

“สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ คำนึงถึงความสำคัญของประเด็นเหล่านี้ จึงจัดการอบรม โครงการ การอบรมเชิงปฏิบัติการจริยธรรมในการนำเสนอข่าวการชุมนุมทางการเมือง ขึ้น เพื่อให้สื่อมวลชนที่ผ่านการอบรมสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์จริงได้และเพื่อให้สื่อมวลชนไทย ทั้งผู้สื่อข่าว และช่างภาพ จากสื่อทุกแขนง ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ได้เพิ่มทักษะเรียนรู้เรื่องการทำข่าวในสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง การรายงานข่าวอย่างรอบด้านเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่เพิ่มความขัดแย้ง โดยมีผู้สื่อข่าวและช่างภาพเข้าร่วมอบรมจำนวน 30 คน คาดว่าผู้ที่เข้าอบรมจะได้มีทักษะและองค์ความรู้มากขึ้น สามารถรายงานข่าวได้อย่างมีจริยธรรม ไม่มีส่วนในการขยายความขัดแย้งในสังคม” เลขาธิการสมาคมนักข่าวฯ กล่าว