อาชีพหนังสือพิมพ์ทำงานเพื่อคนอื่น
ในวัยแค่ 21 ขวบ ทวีป รับหน้าที่บรรณาธิกรของวารสารธรรมจักรของสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อมาได้เป็นบรรณาธิการแผนกวรรณคดีของอักษรสาส์นแทน อัศนี พลจันทร์ หรือ นายผี ช่วงนี้เองที่บทกวีของเขาได้มีส่วนโน้มนำให้คนคิดถึง อุดมคติ ในการดำเนินชีวิตที่ดีงาม พูดถึงความรักความเมตตาปรานีต่อกัน อันเป็นสะพานทอดไปสู่สันติสุขในโลก จนเกือบทำให้เขาถูกจับข้อหากบฏ ที่เรียกว่า กบฏสันติภาพ ในปี 2495
เขาเข้าสู่วงการนักหนังสือพิมพ์เต็มตัว ทั้งที่หนังสือพิมพ์ไทย สยามนิกร สุภาพบุรุษ-ประชามิตร และเสียงอ่างทอง จนเมื่อมีการกวาดจับนักคิด นักเขียน และนักการเมืองในช่วงต้นทศวรรษ 2500 ทวีป ถูกจับข้อหาเป็นคอมมิวนิสต์ ในปี 2503 หลังได้รับการปลดปล่อย ทวีป หันมาประกอบวิชาชีพทนายความ
เป็นคนที่ผ่านหนังสือพิมพ์มาโชก มองปัญหาเสรีภาพในการเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ได้อย่างแหลมคมว่า ขึ้นอยู่กับว่าเรามองเสรีภาพนี้อย่างไร เพราะเสรีภาพ ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบ เราเรียกร้องเสรีภาพอย่างเดียวมันไม่พอ เราต้องมีความรับผิดชอบในการใช้เสรีภาพด้วย
ขายังได้ผ่านการทำหนังสือพิมพ์มาหลายฉบับในยุคที่เผด็จการครองเมือง คือ จอมพล ป.พิบูลสงคราม และจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่มีภาพความรู้สึกในยุคนั้นว่า เผด็จการแต่ละยุคมันคนละอย่างกัน นักหนังสือพิมพ์ต้องอดทนมาก และยังตั้งนิยมเผด็จการทั่วโลกมีลักษณะสากล คือ คอรัปชั่น บ้ากาม และฆ่าคน
สัมผัส พึ่งประดิษฐ์ ทนายความนักต่อสู้ ในฐานะศิษย์เก่าเตรียมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการเมือง (ต.ม.ธ.ก.) รุ่น 7 ที่เคยร่วมกับ ทวีป ออกหนังสือพิมพ์ในมหาวิทยาลัย กล่าวย้อนรำลึกถึงคุณูปการ ในงาน โดมในดวงใจของทวีปวร
{xtypo_quote}นับตั้งแต่มีการยึดอำนาจ 8 พ.ย. 2490-5พ.ย. 2495 เป็นเวลา 5ปีเต็มๆ มรสุมของอำนาจคณะรัฐประหารที่ซัดกระหน่ำใส่โดม ลูกแม่โดม แทบตั้งตัวไม่ติดหลายระลอก จนมีการออกหนังสือพิมพ์ ธรรมจักรรายปักษ์ เพื่อหนุ่นการต่อสู้ของบวนการนักศึกษา โดย ทวีป มีส่วนสำคัญในการออกหนังสือพิมพ์ฉบับนี้{/xtypo_quote}พงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร นักหนังสือพิมพ์ และศิษย์เก่าวารสารศาสตร์ ต.ม.ธ.ก.รุ่น 2504 กล่าวว่า รู้จักงานของเขาจากการเป็นนักข่าวละอ่อนเดินตามด้วยความภาคภูมิใจว่า อาชีพนักหนังสือพิมพ์เป็นอาชีพที่มีเกียรติ นับเป็นความโชคดีที่ได้เข้ามาทำงานในหนังสือพิมพ์ ที่พวกพี่ๆต่อสู้ แล้วถูกจับกุม
ผมซึมซับการทำงานและการต่อสู้จากเขา ที่เปรียบได้กับสัญญาลักษณ์ การต่อสู้ นักคิด นักเขียน ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ เพื่อคนอื่น โดยรากฐานมาจากนักหนังสือพิมพ์ เขาพูดเสมอว่านักหนังสือพิมพ์มีงานในอาชีพอยู่อย่างเดียว คือ ทำงานเพื่อคนอื่น ไม่ใช่เพื่อตัวเอง ทั้งยังเป็นตัวอย่างให้กับผมในการทำงานต่อสู้ ตั้งแต่ในการออกหนังสือพิมพ์ในมหาวิทยาลัย การเขียนใบปลิว เพื่อการต่อสู้
สิ่งที่เขาทำคือความมั่นคงในงานของการต่อสู้ การยึดมั่นในการเป็นนักหนังสือพิมพ์ที่ดี มีประโยคที่เป็นอมตะว่า สั่นแต่มั่นคง เพราะท่านดื่มเหล้ามากจนกระทั้งมือสั่น เขาเป็นคนมั่นคงในทุกเรื่อง ตั้งแต่การทำงานต่อสู้ รวมถึงจิตวิญญาณ เชื่อว่าวิญญาณ สัญลักษณ์ ความมั่นคงในความเป็นนักหนังสือพิมพ์ของทวีปจะยังคงจำหลักอยู่ตลอดต่อไป
จวบจนอายุ 77 ปี วันที่ 8 เมษายน 2548 เขาถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจล้มเหลว และทิ้งมรดกนักหนังสือพิมพ์ต้องทำงานเพื่อคนอื่นไว้ให้แก่พวกเราเป็นกรอบในการทำงานต่อไป