แนวปฏิบัติการได้มาและการนาเสนอข่าวและภาพข่าวของสื่อมวลชน โดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ตกเป็นข่าว

แนวปฏิบัติการได้มาและการนาเสนอข่าวและภาพข่าวของสื่อมวลชน โดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ตกเป็นข่าว

สืบเนื่องจากการปฏิบัติงานและการนาเสนอข่าวและภาพข่าวของสื่อมวลชนในระยะที่ผ่านมา ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคาถามถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมต่อผู้ตกเป็นข่าวในหลายเหตุการณ์ อาทิ การทาข่าวหรือถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสมของผู้เจ็บป่วย ผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ภัยพิบัติ วินาศกรรม หรือเหตุรุนแรง ตลอดจนการรายงานข่าวและภาพข่าวของผู้ต้องหาที่ตารวจนามาแถลงข่าวหรือนามาทาแผนประทุษกรรมอันอาจเป็นการล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหา สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เห็นสมควรให้กาหนดแนวปฏิบัติการได้มาและการนาเสนอข่าวและภาพข่าวของสื่อมวลชน โดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ตกเป็นข่าว ดังนี้ หมวด ๑ ผู้ปฏิบัติงานข่าว ข้อ ๑ ในการทาข่าวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา (๑) ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหา และจาเลย (๒) ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงระมัดระวังการตั้งคาถามและกระทาการใด ๆ ในลักษณะชี้นา กดดัน ซ้าเติม หรือเป็นการดูถูกเหยียดหยามผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหา และจาเลย ข้อ ๒ การทาข่าวอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับฆาตกรรม ภัยพิบัติ วินาศกรรม การก่อการร้าย หรือเหตุรุนแรง (๑) ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพผู้บาดเจ็บที่มีลักษณะอุจาดและสร้างความรู้สึกสยดสยอง (๒) ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงงดเว้นการถ่ายภาพผู้เสียชีวิต หากมีความจาเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ พึงระมัดระวังภาพผู้เสียชีวิตที่มีลักษณะอุจาด สยดสยอง หรือซ้าเติมความทุกข์โศกของญาติผู้เสียชีวิต ข้อ ๓ เมื่อมีความจาเป็นต้องเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในสถานพยาบาล (๑) ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพผู้ป่วย เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้ป่วยโดยชัดแจ้ง (๒) ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงเคารพสิทธิผู้ป่วย โดยเฉพาะข้อมูลและความเป็นอยู่ของผู้ป่วย เว้นแต่ได้รับการยินยอมจากผู้ป่วย (๓) ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงระมัดระวังการกระทาใด ๆ อันอาจเป็นอุปสรรคต่อการทางานของบุคลากรทางการแพทย์ และอาจเป็นการรบกวนผู้มาใช้บริการหรือญาติของผู้มาใช้บริการ และพึงปฏิบัติตามประกาศของสถานพยาบาลอย่างเคร่งครัด ข้อ ๔ ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงระมัดระวังการทาข่าวอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับฆาตกรรม ภัยพิบัติ วินาศกรรม การก่อการร้าย เหตุรุนแรง หรือการกระทาใด ๆ อันอาจขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคต่อการทางานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๕ ผู้ปฏิบัติงานข่าวพึงเคารพสิทธิส่วนบุคคลในการได้มาซึ่งข้อมูลของผู้ตกเป็นข่าว ข้อ ๖ ผู้ปฏิบัติงานข่าวต้องไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือภาพ หรือข้อมูลอื่นใดของเหยื่อ หรือพยาน หรือผู้รู้เห็นเหตุการณ์ในการทาข่าว อันอาจนามาซึ่งภยันตรายต่อบุคคลเหล่านี้ หมวด ๒ องค์กรสื่อมวลชน ข้อ ๗ การเสนอข่าวหรือภาพข่าวผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหา จาเลย และผู้เสียหาย ในคดีอาญา (๑) สื่อมวลชนพึงงดเว้นการนาเสนอข้อมูลส่วนบุคคลและภาพข่าวที่แสดงอัตลักษณ์ของบุคคลที่เป็นเพียงผู้ต้องสงสัย (๒) สื่อมวลชนพึงหลีกเลี่ยงการนาเสนอภาพข่าวเครื่องพันธนาการใด ๆ ของผู้ต้องหาและจาเลย (๓) สื่อมวลชนพึงหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคาในการนาเสนอข่าวเชิงตัดสินหรือเกินข้อเท็จจริงที่แสดงว่าผู้ต้องหากระทาผิดไปแล้ว หรือเชิงประณามที่เป็นการชี้นาให้เกิดการดูหมิ่นเกลียดชัง (๔) สื่อมวลชนพึงระมัดระวังการนาเสนอข่าวจากสานวนคดี อันอาจเป็นการซ้าเติมความทุกข์โศกที่ผู้เสียหายได้รับ ข้อ ๘ สื่อมวลชนพึงหลีกเลี่ยงการเสนอภาพข่าวผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ภัยพิบัติ วินาศกรรม และสถานการณ์รุนแรงอื่น ๆ ที่มีลักษณะอุจาด สยดสยอง หรือน่าเวทนา ข้อ ๙ สื่อมวลชนต้องไม่นาเสนอภาพข่าวศพของผู้เสียชีวิต ในกรณีที่จาเป็นต้องให้ความร่วมมือแก่ทางราชการเพื่อประโยชน์สาธารณะ สามารถนาเสนอได้โดยต้องหลีกเลี่ยงภาพในลักษณะที่เป็นการซ้าเติมความทุกข์โศกต่อญาติของผู้เสียชีวิต ข้อ ๑๐ สื่อมวลชนต้องไม่นาเสนอภาพผู้ป่วยในสถานพยาบาลที่ตกเป็นข่าว เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้ป่วย ข้อ ๑๑ สื่อมวลชนพึงหลีกเลี่ยงการนาเสนอภาพข่าวของผู้เคราะห์ร้ายหรือญาติซ้า ๆ ที่เป็นการตอกย้าความรุนแรง และความทุกข์โศกของผู้เคราะห์ร้ายและญาติ ข้อ ๑๒ สื่อมวลชนต้องไม่นาเสนอข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอื่นใดอันอาจเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ตกเป็นข่าวและผู้ที่เกี่ยวข้องกับข่าวนั้น ข้อ ๑๓ สื่อมวลชนพึงหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคาและสรรพนามเชิงเหยียดหยามหรือไม่เหมาะสมกับเพศ วัย สถานภาพ และชาติพันธุ์ ของเหยื่อ ผู้เคราะห์ร้าย หรือบุคคลทั่วไปที่ตกเป็นข่าว ข้อ ๑๔ สื่อมวลชนพึงระมัดระวังการนาเสนอข้อมูลส่วนบุคคลหรือภาพข่าว หรือข้อมูลอื่นใดของพยาน ผู้รู้เห็นเหตุการณ์ หรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งหรือรุนแรง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันภยันตรายที่อาจเกิดขึ้นแก่พยาน ผู้รู้เห็นเหตุการณ์ หรือเจ้าหน้าที่ผู้นั้น

สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๙