ผลวิจัยอัดซ้ำรัฐแทรกสื่อ สร้างข่าวกลบ-ลบกระแส

ผลวิจัยอัดซ้ำรัฐแทรกสื่อ สร้างข่าวกลบ-ลบกระแส

24 มิถุนายน 2548 23:34 น.
เตือนปิดเวบไซต์ เท่ากับประจานตัวเองไปทั่วโลก สะท้อนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทยตกต่ำยิ่งกว่า"ติมอร์"

นักวิชาการเปิดงานวิจัย พบรัฐแทรกแซงสื่อแยบยล "สร้างข่าวกลบ-ลบกระแส" ประณามปิดเวบไซต์เอฟเอ็ม 92.25 ละเมิดพื้นที่สาธารณะระดับโลก ชี้ชัดรัฐบาลมุ่งจัดการสื่อปฏิปักษ์ เจาะจงช่วงก่อนการอภิปราย หวังลดกระแส ประเมินสถานการณ์ละเมิดสื่อเข้าขั้นรุนแรง นักวิชาการวิจัยพบรัฐบาลใช้วิธีสร้างข่าวอย่างน้อย 13 กรณีใน 2 ปี กลบกระแสข่าวลบ

รศ.ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลดำเนินการปิดเวบไซต์เอฟเอ็ม 92.25 รวมทั้งการประกาศยุติบทบาทการเป็นผู้จัดรายการวิทยุชุมชนเอฟเอ็ม 92.25 ของ น.ส.อัญชลี ไพรีรักษ์ ว่า ถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานในเรื่องสิทธิ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน และเป็นการดำเนินการโดยไม่มีกฎหมายมารองรับ โดยเฉพาะการปิดเวบไซต์ ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะอินเทอร์เน็ตถือเป็นพื้นที่สาธารณะที่มีสิทธิ เสรีภาพมากที่สุดในโลก การดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลเท่ากับเป็นการฟ้องตัวเองไปทั่วโลกและตอกย้ำให้เห็นชัดเจนว่าปัจจุบันสิทธิ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนไทยมีต่ำกว่าประเทศติมอร์เสียอีก

น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการ คปส.กล่าวว่า พฤติกรรมของรัฐบาลในการจัดการกับสื่อครั้งนี้ เกินกว่าจะรับได้ ถือเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต รุนแรง และไม่มีเหตุผล โดยใช้มาตรฐานที่แตกต่าง เลือกปฏิบัติ เห็นความลำเอียงของรัฐบาลชัดเจนขึ้นทุกที เพราะกรณีการเปิดเวบไซต์ คลื่นวิทยุธุรกิจมีการดำเนินการกันมากมาย ไม่เห็นรัฐบาลลุกขึ้นมาจัดการแต่อย่างใด

ชี้มุ่งจัดการสื่อปฏิปักษ์ก่อนอภิปราย
นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหาวิทยุชุมชนตั้งแต่แรก มาตรการต่างๆ ที่ออกมาเพื่อมุ่งจัดการกับวิทยุชุมชนที่เป็นปฏิปักษ์ ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล โดยเฉพาะก่อนจะถึงการเปิดอภิปรายในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) นี้ "รัฐบาลมั่นใจในตัวเองมากเกินไปในการที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรก็ได้ กรณีเอฟเอ็ม 92.25 จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ทำให้ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจกับสถานการณ์ของสื่อในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ก็สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลจะใช้วิธีการจัดการกับสื่อชนิดราบเรียบ เพราะกลัวเสียงแห่งความเป็นจริงจะเล็ดลอดไปสู่ประชาชน" น.ส.สุภิญญา ระบุ

วันเดียวกัน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดประชุมทางวิชาการเรื่อง "ปิดหู ปิดตา ปิดปาก : สิทธิเสรีภาพในมือธุรกิจการเมืองสื่อ" โดยนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ รองบรรณาธิการอำนวยการ หนังสือพิมพ์มติชน อุปนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หนึ่งในผู้ร่วมเสวนา กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพของสื่อในขณะนี้ ไม่ใช่แค่เรียกว่าเป็นการครอบงำหรือแทรกแซงสื่อเท่านั้น แต่เป็นการใช้วิธีการบริหารจัดการสื่ออย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลาย อาทิ การโฆษณาชวนเชื่อ การสร้างข่าว การปล่อยข่าว การแทรกแซงกองบรรณาธิการ การตัดงบประมาณโฆษณา

"ปัจจุบันการจัดการกับสื่อเริ่มไม่ได้ผล เสื่อมประสิทธิภาพลง สังเกตได้ว่า รัฐบาลจะใช้วิธีการรุนแรงขึ้น เช่น การปิดเวบไซต์เอฟเอ็ม 92.25 เป็นต้น และเชื่อว่าความรุนแรงจะเพิ่มขึ้น" นายประสงค์กล่าว

วิจัยพบ 2 ปี สร้างข่าว 13 กรณี
ทั้งนี้ ในการเสนอรายงานทางวิชาการเรื่อง "ปิดหู ปิดตา ปิดปาก" โดยนายรุจน์ โกมลบุตร อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในหัวข้อ "การกำหนดวาระข่าวสารของรัฐบาล : ไม่สร้างข่าว ก็แทรกแซงข่าว" พบว่า จากการศึกษาข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ตลอดช่วง 2 ปี (1 ก.ย.45-31 ส.ค.47) ที่ผ่านมา หากเกิดกรณีที่มีการนำเสนอข่าวในด้านลบและมีผลกระทบติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน จะมีข่าวบางอย่างออกมา และเป็นข่าวใหญ่ เรียกว่าเป็นข่าวสร้าง

ซึ่งมีทั้งหมด 13 กรณี อาทิ ข่าวลบกรณีลูกชายท่านผู้นำนำกระดาษโน้ตเข้าห้องสอบ มีข่าวสร้างประกบ คือ ลูกชายคนดังกล่าวโอนหุ้นให้น้องสาวโดยไม่มีเหตุผลจำนวนถึง 367 ล้านหุ้น, กรณีปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดข่าวสร้างกรณีที่นายกฯมอบตั๋วเครื่องบินให้เยาวชนจากภาคใต้ขึ้นเครื่องบินมาเที่ยวกรุงเทพฯ ในวันเด็ก

กรณีการระบาดของไข้หวัดนก มีข่าวว่า รัฐบาลจะประกาศปรับเงินเดือนข้าราชการและข่าวที่นายกฯ ครม.และบุคคลมีชื่อเสียงกินไก่โชว์ กรณีข้อสอบเอนทรานซ์รั่ว ก็มีข่าวลูกสาวนายกฯทำงานหารายได้พิเศษที่ร้านแมคโดนัลด์หรืออย่างกรณีข่าวลบเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจในปี 2547 มีข่าวสร้างกรณีการซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล เป็นต้น

แฉ6วิธีแทรกการทำงานสื่อมวลชน
นายรุจน์ ระบุว่า วิธีการทำข่าวสร้างของรัฐบาลจะใช้วิธี

1.ทำเป็นอีเวนท์ เช่น การกินไก่โชว์

2.ใช้ภาษาที่กระทบใจ เช่น กรณีข้อสอบเอนทรานซ์รั่ว นายกฯออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ลูกนายกฯ ไม่ใช่ลูกโจรที่ไหน ซึ่งหลังจากนั้นทำให้สื่อมวลชนเลิกสนใจประเด็นดังกล่าว

3.เป็นการสร้างข่าวใหม่ขึ้นมา เช่น กรณีการซื้อสโมสรลิเวอร์พูล หรืออย่างเร็วๆ นี้ จะเห็นชัดเจนในกรณีข่าวการเปิดอภิปรายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ก็มีข่าวใหญ่ขึ้นมาเรื่องการจับบ่อนการพนันที่เตาปูน ตามด้วยการเปิดบ่อนเสรี

นอกจากการสร้างข่าวเพื่อกลบข่าวเชิงลบแล้ว ยังพบว่า รัฐบาลมีความพยายามที่จะแทรกแซงในกระบวนการ แสวงหาข้อเท็จจริงของผู้สื่อข่าวทั้งหมด 6 วิธี

1.ห้ามข่าวมิให้รั่วไหลออกจากหน่วยงาน หรือ ส.ส.โดยสั่งข้าราชการไม่ให้พูดหรือให้ข้อมูลผู้สื่อข่าว

2.ถ้าห้ามไม่ได้ก็ให้ข่าวไหลช้าที่สุด โดยการอ้างประโยคทองว่า "ยังไม่ได้รายงาน"

3.ลดแรงกดดันทางการเมือง ซึ่งเห็นได้ชัดจากการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง

4.สร้างกระบวนการหาข้อเท็จจริงที่ไม่เป็นธรรม เช่น บุคคลที่อยู่ในคณะกรรมการที่ไม่เป็นกลาง

5.การแทรกแซง ข่มขู่ ป้ายสี และลดความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว ให้สูญเสียความชอบธรรมทางสังคม  6.แทรกแซงกองบรรณาธิการข่าว โดยใช้วิธีการโทรศัพท์ข่มขู่ หรืออ้างบุคคลระดับสูง เพื่อขอร้องไม่ให้นำเสนอข่าวด้านลบ

 

92.25 โดนยิงคลื่นแทรกรบกวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่รัฐบาลสั่งปิดเวบไซต์ thai-insider.com ของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานบริหารเครือโอเรียนเต็ลมาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ กับเวบไซต์ fm 9225.com ของสถานีวิทยุชุมชน FM 92.25 เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง ปรากฏว่า ตลอดทั้งวันของวานนี้ (24 มิ.ย.) ประชาชนไม่สามารถรับฟังได้ตามปกติ เนื่องจากมีคลื่นแทรกตลอดเวลา โดยมีแต่เสียงเพลงลูกทุ่งตลอดทั้งวัน จึงโทรศัพท์สอบถามจำนวนมากถึงเหตุการณ์ผิดปกติ

ผู้ดำเนินรายการของสถานีผู้หนึ่ง เปิดเผยว่า สถานียังจัดรายการตามปกติ แต่ปรากฏว่า มีเสียงเพลงลูกทุ่งแทรกทั้งวัน แสดงว่า ต้องมีการยิงคลื่นแทรกมารบกวน ซึ่งต้องใช้คลื่นความถี่ที่มีกำลังส่งสูงมาก จึงรับฟังได้เฉพาะรอบๆ ตึกทีพีไอที่ตั้งสถานีเท่านั้น ที่น่าสังเกต คือ รายการเพลงลูกทุ่งที่ยิงมารบกวน ไม่มีผู้จัดรายการแต่อย่างใด แต่เปิดเพลงตลอดรายการแสดงว่าเป็นวิทยุเถื่อนที่แท้จริง

"ที่เขาต้องการปิดคลื่น 92.25 เพราะช่วงนี้ใกล้อภิปรายไม่ไว้วางใจ และวันเสาร์ที่ 25 มิ.ย.สถานีได้จัดกิจกรรมนอกสถานที่ JAZZ IN THE PARK Vol.3 ที่โรงแรมแกรนด์ รัชดา เวลาบ่ายโมง ซึ่งวันเสาร์นี้พูดถึงเรื่องการเปิดโปงการทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 โดยจะมีวิทยากรมาร่วมหลายคน ทั้ง ส.ส., ส.ว.และนักวิชาการ คาดว่า จะมีประชาชนมาร่วมงานกว่า 1 พันคน และจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุ 92.25 ตลอดรายการด้วย"