นักวิชาการชี้ช่องโหว่พนันออนไลน์ยุค 4.0 ผ่านบล็อคเชน-เงินดิจิทัล

การประชุมวิชาการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ปี 2565 “ก้าวย่าง บนทางเสี่ยง : การพนันในโลกที่กำลังเปลี่ยนไป” ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร  จัดโดย ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  

โดยเวทีในช่วงบ่ายของการประชุมดังกล่าว มีหัวข้อที่น่าสนใจมีความเชื่อมโยงกัน คือ เวทีอภิปราย ‘สื่อใหม่’ . . . ตัวแปรเปลี่ยนโลกการพนัน ? และเวทีอภิปราย “รับมือการพนัน ในฐานะปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ” 

โดยช่วงหนึ่ง มีการเปิดใจผ่านระบบ Zoom ของ “น้องเจม(นามสมมติ) ซึ่งเป็นเยาวชนที่เคยหลงผิดเข้าวงจรเป็นนักพนันออนไลน์  

น้องเจม เล่าว่า ตัวเองเล่นการพนันฟุตบอลออนไลน์ มาตั้งแต่อายุ 16 ปี หรือ 2 ปีที่แล้ว โดยเริ่มจากอยากรู้อยากลอง และคิดว่ามีโอกาสได้มากกว่าเสีย โดยใช้เงินในการเล่นต่อครั้งแทงผลพนันคู่ละ 5,000 บาท และเสียพนันมากที่สุดประมาณ 4-5 หมื่นบาท จากนั้นก็เริ่มลดการใข้เงินด้วยการเล่นบอลชุด 3,000 บาท ในใบเดียว เพื่อใช้จ่ายเงินน้อยลง เพราะเชื่อว่าเมื่อเสียแล้วก็อยากจะเอาคืนทุกครั้ง  

เยาวชนผู้นี้ เล่าต่ออีกว่า สุดท้ายเมื่อมีหนี้มากขึ้น จนคิดได้ในภายหลัง ก็ต้องยอมบอกความจริงกับที่บ้าน เพราะเริ่มมีอารมณ์ที่เปลี่ยนไป มีอาการซึม แสดงผิดหวังบ่อยครั้ง แต่ตอนนี้เลิกเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์มาแล้วประมาณ 2-3 ปี 

“ผมเลิกด้วยการห้ามใจตัวเอง เพราะถ้ากลับไปก็จะเป็นเหมือนเดิม ไม่มีทางสู้เขาได้แน่นอน สรุปบทเรียนในการเลิกเล่น ถ้ายังเล่นอยู่ก็มีแต่ข้อเสียตามมา ถ้าเราเล่นเราต้องเสียมากกว่าได้ ถ้ารู้อยูว่าเล่นแล้วเสียจะเล่นต่อทำไม ผมจึงตัดสินใจเลิกเล่นด้วยตัวเอง” น้องเจม กล่าว 

พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผอ. รพ.ศรีธัญญากล่าวว่า กรณีของน้องเจมเป็นเคสที่ทำให้วัยรุ่นเห็นว่า การดูกีฬาแล้วสนุกเพราะสุดท้ายหลวมตัวเข้าไป โชคดีที่มีตัวช่วย คือตัวเขาเองทำให้ไม่ถลำไปต่อมากกว่านี้  เพราะการพนันเปลี่ยนเป็นออนไลน์หมดแล้ว 

ผอ. รพ.ศรีธัญญากล่าวอีกว่า เรามีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองเด็กและต้องบำบัดผู้สูงอายุ ที่ติดการพนันแล้ว แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาด้วยสถานการณ์โควิดเราไม่ได้ทำในเรื่องนี้เนื่องจากบุคลากรต้องช่วยดูแลสถานการณ์โควิด แต่ล่าสุดปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำการเปิด “คลินิกจิตเวชและยาเสพติด” ซึ่งการพนันก็จะอยู่ในยาเสพติดด้วย ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเปิดแล้วจำนวน 1 ใน 3 ของทั่วประเทศ  

ด้านนายธาม  เชื้อสถาปนศิริ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล กล่าวว่า ได้ศึกษารูปแบบของการพนันพบว่า การพนันแบ่งเป็นยุค คือ  1. ยุค 1.0 คือ การพนันตามเทศกาล มีที่ตั้ง ในงานบุญ งานวัด เป็นต้น 2. ยุค 2.0 ที่เจ้าหน้าและรัฐ ประกาศเองว่าเล่นการพนันถูกกฎหมาย อาทิ สลากกินแบ่ง สลากกาชาด  3.ยุค 3.0 คือ การตลาดและมาร์เก็ตติ้ง ที่แฝงอยู่ในรายการทีวี การไปรษณีย์ชิงโชค การตัดหนังสือพิมพ์ทำนายลุ้นผลฟุตบอลโลก

และ 4. ยุค 4.0 คือ ยุคที่น่ากลัวที่สุด คือ การพนันในโลกอินเตอร์เน็ต ใน Smart device ดีไวซ์ต่างๆ เล่นไหน เมื่อไรก็ได้ และผู้เล่นสามารถเลือกเล่นบ่อนที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ทำให้ต้องตั้งคำถามว่า เรา ควรมีบ่อนเสรีอีกหรือไม่ คำตอบคือเราถามช้าเกินไปแล้ว เพราะถึงจะมีหรือไม่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาการพนันในยุค 4.0 ได้แล้ว   

“เพราะการพนันยุค 4.0 ไม่จำเป็นต้องมาตั้งวงพนันใน on site แล้ว และอนาคตสื่อจะไม่ได้อยู่ในมือมนุษย์แล้ว แต่จะอยู่ใน AI สมองกล ที่สุดจะจินตนาการได้” 

นายธาม กล่าวถึง เทคโนโลยี บล็อคเชน ว่า เป็นเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโฉมการพนันอีกระดับที่ ไม่ใช่เป็นแค่ 4.0 เพราะเป็นการใช้เงินดิจิทัล ซึ่งไม่ใช่เงินสกุลหลักอีกต่อไปแล้ว  แล้วจะไปตรวจสอบธุรกรรมเส้นทางการเงินของใครได้ 

“เพราะที่ผ่านกระบวนการการฟอกเงิน มาจากการพนันด้วยใช่หรือไม่ เพราะเทคโนโลยีบล็อคเชนเข้ามาทำลายการตรวจสอบ นี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุคบล็อคเชน มองไม่เห็น ตรวจสอบไม่ได้ การคำนวณยากลำบาก  ซึ่งรวมถึงคริปโตเคอเรนซี่ บิทคอยน์ ก็เช่นกันที่เป็นเงินดิจิทัลที่ยากต่อการตรวจสอบ หากมีการใช้ในการพนัน” นายธาม กล่าว 

นักวิชาการ จากสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล กล่าวต่อไปว่า การพนันยุคใหม่ จะเป็นเหมือนสงครามไซเบอร์ หรือ Cyber War ที่สั่นคลอนทั้งความมั่นคง และสั่นคลอนทางเศรษฐกิจไปด้วย ซึ่งยากต่อการกำกับดูแลเทคโนโลยี  

“ดังนั้นสื่อที่แปรเปลี่ยนไป ทั้งดิจิทัล สื่อกระดาษ ทีวี วิทยุ แต่ต่อไปจะมีวัตถุมวลสารในดิจิทัลจะเป็นพนันในตัวของมันเอง ที่อาจจะมีร่าง 3 มิติ ไปเล่นในบ่อนดิจิทัลในส่วนไหนก็ได้ในโลกในเทคโนโลยี ทำลายการพนันแบบเก่า และเพิ่มผู้เล่นหน้าใหม่ๆ โดยเฉพาะวัยเด็ก”  

ด้าน นายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมนักข่าวฯ เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญของสังคมในประเด็นของการพนัน ที่มีเทคโนโลยีการสื่อสารที่รวดเร็ว ที่สื่อก่อให้เกิดอำนาจอิทธิพลมากมาย ที่ปัจจุบันทุกคนเป็นสื่อได้อย่างง่ายดาย โดยในส่วนขององค์กรสื่อพยายามสร้างจรรยาบรรณของการสื่อสารขึ้นมา ซึ่งกำลังมีการร่าง “แนวปฏิบัติสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เรื่องการนำเสนอข่าวและภาพข่าว ความเชื่อไสยศาสตร์ ตัวเลขและสลากพนัน พ.ศ.... เพราะแนวคิดของสังคมคิดว่า สื่อมีส่วนในการการสนับสนุนการพนันให้เป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคม ดังนั้นการสื่อสารจึงมีความสำคัญเพราะมีผลกระทบร้ายแรง ดังนั้นเราพยายามกำหนดมาตรการควบคุม  

“ก่อนจะคิดไปไกลถึงการเปิดกาสิโนถูกฎหมาย ถ้าตราบใดที่สื่อยังส่งเสริมให้เผยแพร่การพนันอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างต่อเนื่อง สังคมก็จะยังคิดว่าการพนันเป็นเรื่องปกติ แม้สลากนั้นจะเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายก็ตาม” นายมงคล กล่าว 

ด้าน นางนงนุช  แย้มวงศ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดเผยข้อมูลว่า ค้นพบว่าผู้สูงอายุติดพนันมีจำนวนไม่น้อย และมีพฤติกรรมการเล่นมาตั้งแต่เด็ก เล่นเพื่อความสุขและบั้นปลายของชีวิต อาทิ หวยใต้ดินแต่เล่นตัวละ 50 บาท เป็นความสุขเล็กๆ แต่ก็มีที่เป็นคนเล่นเยอะ เป็นหนี้เป็นสิน จนไม่ได้รับการยอมรับจากลูกหลาน  

และพบว่ามีผู้สูงอายุ เล่นพนันออนไลน์ อาทิ หวยต่างประเทศรายวัน ดังนั้น หลายมุมมองอาจจะห่วงเยาวชน แต่ต้องห่วงทั้งผู้สูงอายุ และวัยทำงานด้วย เพราะเมื่อมีหนี้สินจะมีภาวะเครียด คิดมาก ซึมเศร้า มีปัญหาหนี้นอกระบบ จนก่อปัญหาอาชญากรรม หากเป็นวัยทำงาน งานก็จะเสียไปด้วย  

นางนงนุช  กล่าวว่า มีการลงพื้นที่ทดลองกระบวนการให้คำปรึกษาในบางชุมชนกับผู้มีปัญหาพนัน ทำงาน 2 ระยะ คือการเตรียมการ กับ การให้คำปรึกษา ซึ่งเป็นการถามตอบ แต่ได้รับการปฏิเสธที่จะทำแบบสอบถาม เพราะมองว่าเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เกี่ยวข้อง จึงต้องเปลี่ยนวิธีการ กว่าจะทำได้ใช้เวลา 3 เดือน จนมีความเข้าใจ จากนั้นทำการคัดกรองด้วยเครื่องมือ 20 ข้อ จนได้ผู้ทีมีปัญหาพนันเข้ามากลุ่ม  มีการประเมินความรุนแรง ความพร้อมที่เปลี่ยนพฤติกรรมโดยมี 5 ขั้นตอน รวมแล้วใช้เวลานานถึง 9 เดือน แต่เมื่อทำแล้วพบว่า ทำให้ดีขึ้น เพราะเขาอยากมีคนพูดคุยเพื่อหาทางออก ต้องการคนรับฟัง 

แต่สิ่งที่พบข้อมูลในการทดลองคือ 1. ต้องพยายามรู้ปัญหา ให้เขายอมรับว่าสิ่งเหล่านี้มีปัญหา นักพนันจะมีความปกปิดความลับ จนไปไม่รอด ถึงขั้นล้มละลายและฆ่าตัวตาย ถ้าใช้ช่องทางที่ถูกต้องเขาจะเลิกได้ 

2. ต้องให้เขารู้ด้วยตัวเอง โดยมีคู่มือคัดกรองปัญหา 3. ต้องมีช่องทางช่วยเหลือ ที่หลากหลาย เพียงพอให้บริการเป็นขึ้นพื้นฐานในโรงพยาบาลชุมชน และ 4. ผู้ให้คำปรึกษาต้องมีทักษะ มีประสบการณ์ ด้วยการพัฒนาบุคลากรให้มีมากขึ้น 

ด้าน รศ.ดร.นวลน้อย  ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าวยกแนวคิดและวิธีการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายในต่างประเทศ เพราะเขามีหลักคิดในการทำเรื่องนี้ เริ่มต้นด้วยการหาเงินเข้าประเทศ เพื่อแก้ปัญหาหลายเรื่อง และให้ธุรกิจการพนันไม่อยู่ในเรื่องช่องว่างการทุจริตคอรัปชั่น อาชญากรรม การฟอกเงิน อย่างเช่นที่ประเทศจีน ที่ใช้กาสิโนเพราะต้องการปราบคอรัปชั่น  

พร้อมกันนี้ยังแนะนำว่า ถ้าหากรัฐจะทำจริงถามว่าจะมีมาตรการดูแลอย่างไร เพราะอย่างที่สิงคโปร์ ต้องมีคณะกรรมการดูแลการเล่นพนันที่มีปัญหา มีการทำระบบ โปรแกรม และมีขั้นตอนต่าง ๆ และมีการตั้งกองทุนเพื่อลดผลกระทบ 

“ถ้าเราอยากมี Entertainment Complex ถ้าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ต้องถามคำถามว่าเมื่อถูกกฎหมายจะแก้ปัญหาอื่น ๆอย่างไรในสังคม ในปัญหาเหล่านั้น อีกทั้ง กฎหมาย พ.ร.บ.พนันของบ้านเราเก่ามาก ตั้งแต่ พ.ศ. 2478 ทั้งที่ สังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปเยอะมาก คณะกรรมการกำกับต้องเป็นหัวใจ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นปัญหา ต้องมีคณะกรรมการลดผลกระทบเช่นเดียวกับสิงคโปร์ ต้องมีกองทุนลดผลกระทบจากการพนัน ที่ต้องใช้เงินในการทำกลไกต่าง ๆ “