เทศบาลนครเกาะสมุยให้การต้อนรับสมาคมนักข่าวไทย-เวียดนาม เชื่อมสัมพันธ์สื่อ 2 ประเทศ

เมื่อวันที่ 23 และ 24 พ.ย. 2566 นายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นำคณะผู้บริหารสมาคมนักข่าวเวียดนาม 7 ท่าน นำโดย นายเหงียน ดึ๊ก ลี (NGUYEN DUC LOI)   รองประธานสมาคมนักข่าวเวียดนาม ทัศนศึกษาด้านเกี่ยวกับการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย

โดยในวันแรกได้เข้าเยี่ยมชมกิจกรรมและรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการเรียนการสอนของวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ  ซึ่งมี ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน ผู้อำนวยการ  อ.ลินยง เพชโรภาสย์ ผู้ช่วยบริหาร    นายประเวศ ไทยประยูร ผู้จัดการให้การต้อนรับ

วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณนั้น ได้รับนักศึกษาจากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย เข้าเรียนฟรีเป็นเวลา 5 ปี (ปวส.)  โดยเน้นสอนในวิชาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวการโรงแรมและภาษาต่างประเทศ  โดยนำครูอาจารย์จากประเทศยุโรปอเมริกา และประเทศจีนมาเป็นผู้สอนภาษา  รวมทั้งยังมีเชฟผู้ชำนาญการด้านการทำอาหารมาเป็นผู้สอนอีกด้วย  โดยคณะสื่อมวลชนเวียดนามยังได้รับประทานอาหารฝีมือนักศึกษาและจากผลิตผลภายในวิทยาลัยเอง

จุดเด่นของวิทยาลัยดังกล่าวคือมีกิจกรรมการเลี้ยงตนเองด้วยแนวคิด "ทฤษฎีความพอเพียง" ของในหลวงรัชกาลที่ 9  โดยในบริเวณวิทยาลัยมีพื้นที่ทำการเกษตร  พืชผักสวนครัว เพาะเห็ด เลี้ยงไก่ โรงเรือนปลูกผัก ผลไม้ปลอดสารเคมี  ผลิตปุ๋ยชีวภาพ เพื่อการเกษตร  นำเศษอาหารเลี้ยงหนอนเพื่อนำหนอนที่โตขึ้นไปเป็นอาหารปลาดุก  โดยมีบ่อเลี้ยงปลาดุกแบบปลอดดินโคลนอยู่ภายในโครงการ  ทำให้เกิดการบริหารจัดการตนเองได้อย่างครบวงจร  ลดการพึ่งพาวัตถุดิบที่ไม่จำเป็นจากภายนอก  และยังสามารถนำผลิตภัณฑ์ ไปจำหน่ายในโรงแรมโดยรอบของเกาะสมุย

การเรียนการสอน ภายในวิทยาลัย จะจัดเทอมการศึกษาตามวงธุรกิจการท่องเที่ยว  กล่าวคือช่วง Low season จะเป็นช่วงเปิดเทอม  ส่วนช่วง High Season จะเป็นช่วงปิดเทอมที่สามารถส่งนักศึกษาไปเรียนรู้จากการทำงานจริงในโรงแรมต่างๆทั่วประเทศ  เพื่อรองรับจำนวนบุคลากรที่ขาดแคลน  โดยนักศึกษาจะมีรายได้วันละ 500 บาทเป็นเวลาสี่เดือนต่อปี  ทำให้เมื่อจบการศึกษา  นักศึกษาจะสามารถเก็บเงินได้เป็นหลักแสนถึงสองแสนบาท  เพื่อใช้เป็นต้นทุนในการประกอบอาชีพต่อไป

จากนั้นคณะสื่อมวลชนเวียดนามได้เยี่ยมชมศูนย์สุขภาพธัญสมุย  ซึ่งบริหารโดยคุณธัญญรัตน เพชรพรหม
ประธานกรรมการ ธัญสมุย ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม  และได้เล่าบรรยายให้เห็นถึง การดำเนินการภายในศูนย์สุขภาพ  โดยใช้หลัก "ทำความสะอาดโลหิต"  ด้วยระบบการแนะนำวิธีการดูแลตนเองอย่างใกล้ชิด  ประกอบกับการใช้สมุนไพรเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายที่ได้รับเคมีจากอาหารและสิ่งแวดล้อม  ปรับสุขลักษณะในการลดละการสูบบุหรี่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  และรับประทานอาหารในเชิงสุขภาพ  ซึ่งมีผลทำให้ผู้ป่วยภูมิแพ้และผู้เป็นมะเร็งจำนวนหนึ่งมีสภาพร่างกายที่ดีขึ้นและสามารถยืดชีวิตต่อสู้กับมะเร็งได้ยาวนานขึ้น  ซึ่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวจากนานาชาติรวมทั้งประเทศเวียดนามให้ความสนใจเข้ามาฟื้นฟูสภาพร่างกายที่ศูนย์สุขภาพแห่งนี้

คณะสื่อมวลชนเวียดนามได้เข้าพักที่โรงแรม The Fair House Beach Resort and Hotel หาดเฉวงน้อย  และช่วงค่ำร่วมรับประทานอาหารที่ร้านจิตโภชนา 3 หน้าทอน  โดยมีนายแพทย์สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์  อดีตเลขาธิการแพทยสภาเป็นเจ้าภาพ  จากนั้นได้เยี่ยมชมกิจการความบันเทิงยามค่ำคืนในบริเวณหาดเฉวง

วันต่อมาคณะได้เข้าเยี่ยมและพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ด้านจัดการการท่องเที่ยวและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม  กับนายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีเกาะสมุย

นายรามเนตรได้กล่าวกับคณะว่าไทยและเวียดนามมีวัฒนธรรมหลายอย่างที่คล้ายคลึงกัน  ลักษณะพื้นที่ของสมุยก็มีความคล้ายคลึงกับเวียดนาม  แต่หลายจุดของเวียดนามเป็นสิ่งที่น่าเรียนรู้  เช่นการนำสายไฟฟ้าลงดินซึ่งทำมานานแล้ว

นายหมื่นศิลป์  พูนสวัสดิ์  ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีฯ กล่าวเสริมว่าจุดเด่นการท่องเที่ยวของสมุยคือธรรมชาติทางบกและทางน้ำ  โดยเฉพาะฟูลมูนปาร์ตี้ที่เกาะพงัน

นายเหงียน ดึ๊ก ลีกล่าวว่าสมุยมีเอกลักษณ์ที่น่าค้นหา  โดยเฉพาะการจัดการการท่องเที่ยวอย่างเป็นระเบียบ  ซึ่งหลายจุดทางเวียดนามยังทำไม่ถึง

ทั้งสองฝ่ายยังได้พูดถึงประเพณีชนวัวที่มีความคล้ายกันระหว่างไทยและเวียดนาม ซึ่งนายกเทศมนตรีเกาะสมุยก็สนใจที่จะไปดูการชนวัวที่ประเทศเวียดนาม  และพูดคุยกันถึงการชกมวยไทย  และยิมส์มวยไทย

จากนั้นคณะได้เดินทางไปรับประทานอาหารที่ร้านข้าวหอม ต.บ่อผุด  โดยมีนายธศร  ทักษิณาพันธ์ ผู้จัดการแผนกสื่อสารองค์กรระหว่างประเทศ บริษัทการบินกรุงเทพจำกัดเป็นเจ้าภาพ  และเที่ยวชมถ่ายภาพที่พระใหญ่และวัดปลายแหลม  ก่อนเดินทางขึ้นเครื่องกลับสู่ กทม. โดยสวัสดิภาพ

โดยนายธศรได้พูดคุยกับคณะระหว่างรับประทานอาหาร  และได้แสดงความยินดีที่จะได้สนับสนุนการไปมาหาสู่เหย้าเยือนระหว่างสมาคมนักข่าวไทยและสมาคมนักข่าวในภูมิภาคนี้ในอนาคตต่อๆ ไป