ห้องเรียนสาธารณะ ฝึกนิสิตภาคเหนือเรียนรู้ข่าวเศรษฐกิจ

สมาคมนักข่าวจัดเวทีสัญจรห้องเรียนสาธารณะ ฝึกนิสิตภาคเหนือเรียนรู้ข่าวเศรษฐกิจ ด้าน “สดศรี”คณบดีสื่อสารมวลชนมช. ย้ำสื่อให้คงหลักจริยธรรมเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมือง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ที่ห้องประชุม 7801 คณะมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยร่วมกับคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดการประชุมเครือข่ายนักวิชาการและนักวิชาชีพสื่อสารมวลชน(กวส.) กลุ่มย่อยครั้งที่ 3 โดยมีนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและนักศึกษาจากเครือข่ายภาคเหนือจำนวนมากเข้าร่วมประชุม

คุณเย็นจิตร์ สถิรมงคลสุข อุปนายกสมาคมนักข่าวฯกล่าวเปิดงานน.ส.เย็นจิตร์  สถิรมงคลสุข อุปนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยกล่าวเปิดการประชุมว่า การจัดงานในครั้งนี้ ขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากนักวิชาชีพสื่อสารมวลชนและนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนเพื่อทำให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการและยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องขององค์ความรู้หรือจริยธรรมของนักวิชาชีพสื่อสารมวลชน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่นักศึกษา นักวิชาการ และนักวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชนต้องร่วมศึกษาและรับรู้พร้อมทั้งนำมาปฏิบัติให้เกิดผลประโยชน์อย่างแท้จริงในการประกอบวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชนต่อไปในวันข้างหน้า

รศ.ดร.สดศรี เผ่าอินจันทร์ คณบดี คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่อภิปรายในหัวข้อ “จริยธรรมสื่อ” ว่า ปัจจุบันนี้สถานการณ์ในเรื่องจรรยาบรรณของนักวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชนเป็นเรื่องที่ถูกตั้งคำถามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้ประชาชนเครียดกับการเสพข่าวสารเพราะสื่อบางสื่อประชาชนเสพแล้วไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าสื่อไหนนำข้อเท็จจริงมานำเสนอ  ดังนั้นเรื่องจริยธรรมของสื่อมวลชนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้การทำหน้าที่เป็นไปด้วยความถูกต้องได้

คณบดีคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดบัญชีของนักการเมืองสิ่งที่น่าตกใจเป็นอย่างมากคือค่าใช้จ่ายของนักการเมืองส่วนหนึ่งคือเงินที่ต้องที่ต้องใส่ซองขาวให้กับนักข่าวซึ่งเป็นเรื่องที่ชัดเจนแล้วว่าการรับซองขาวจากนักการเมืองเป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณของนักข่าวอย่างแน่นอน นอกจากการใส่ซองขาวแล้วการจัดพานักข่าวไปดูงานต่างประเทศโดยเฉพาะนักข่าวเศรษฐกิจก็ได้ไปเที่ยวและไปดูงานต่างประเทศเป็นว่าเล่น  และในประเด็นเหล่านี้สิ่งที่จะป้องกันตนเองให้ดำรงอยู่ในหลักวิชาชีพได้นั้นก็คือตัวของนักข่าวเองโดยนักข่าวต้องตั้งมั่นและยึดอยู่ในหลักของความถูกต้อง ไม่ใช่กลับมาแล้วเขียนเชียร์แต่ในด้านดี ๆ ของเขาแต่ในด้านของการตรวจสอบกลับไม่มีการกล่าวถึง

รศ.ดร.สดศรีกล่าวว่า ทางออกของปัญหาด้านจริยธรรมของสื่อที่เกิดขึ้นนี้ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกัน อาจารย์ที่สอนงานด้านสื่อสารมวลชนจะต้องต้องถ่ายทอดหลักในการเขียนงานอย่างถูกครบถ้วนให้กับนักศึกษาและสื่อเองก็ต้องยึดหลักการรายงานข่าวอย่างถูกถ้วนด้วยไม่ใช่รายงานในเรื่องเสียหายก่อนแล้วค่อยมาขอโทษทีหลัง สื่อต้องสร้างความความรศ.สดศรี เผ่าอินจันทร์ คณบดีการสื่อสารมวลชนมช.ร่วมอภิปรายในหัวข้อจริยธรรมสื่อสมดุลและรอบด้านในข่าวให้เกิดขึ้นให้ได้ สื่อต้องกล้าอยู่ในวิชาชีพนี้อย่างสง่าผ่าเผย ต้องมีความกล้าในจิตวิญญาณของตนเองว่าข่าวแบบใดควรจะนำเสนอ และเราต้องร่วมกันปลุกจิตสำนึกของนักศึกษาของเราให้มีความกล้าในการคิดต่างและกล้าที่จะปฏิเสธซองขาวและทำให้นักศึกษาที่จะออกไปทำงานด้านสื่อสารมวลชนกลายเป็นสื่อสารมวลชนที่มีคุณธรรมและทำเพื่อผลประโยชน์อย่างแท้จริงของประชาชนให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงบ่ายเป็นการเสวนาโครงการห้องเรียนสาธารณะในหัวข้อ “หายนะฟองสบู่ซับไพรม สู่วิกฤตเศรษฐกิจไทย โดยมี น.ส.นภาพร พิพัฒน์ หัวหน้าข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ น.ส.สุนันทา แย้มทัพ อาจารย์ประจำ แขนงวิชาการหนังสือพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ คณะการสื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผศ.ดร.นิสิต พันธมิตร อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมเป็นวิทยากรในการบรรยายพร้อมมีนักศึกษาจากภาคเหนือหลากหลายสถาบันเข้าร่วมฟังการเสวนาในครั้งนี้


คุณนภาภรณ์ พิพัฒน์ วิทยากรจากสมาคมบรรยายความรู้เรื่องข่าวเศรษฐกิจกับนักศึกษา


นักศึกษาหลากหลายสถาบันจากภาคเหนือเข้าร่วมรับฟังการบรรยายอย่างคับคั่ง


นักวิชาการและนักวิชาชีพเข้าร่วมโครงการห้องเรียนสาธารณะ