จากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัส "โควิด" ทั่วโลกตั้งแต่ปลายปี 2019 ยาวข้ามปีมาถึง 2020 กลายเป็นวิกฤตการณ์สำคัญที่ Time Magazine นิตยสารชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจออกแบบหน้าปกฉบับเดือน ธ.ค.เป็นตัวเลข 2020 สีดำ บนพื้นหลังสีขาว พร้อมกากบาทสีแดงทับเลข 2020 เหนือข้อความ "The Worst Year Ever" หรือ "ปีที่เลวร้ายที่สุด"
เป็นอีกหนึ่งการเลือกใช้ปกที่เรียบง่ายแต่โดดเด่น เพื่ออธิบายถึงช่วงเวลาสาหัสสากรรจ์จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด กระทบเป็นวงกว้างไปถึงระบบเศรษฐกิจทั่วโลก และผู้คนทุกทวีปที่เสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน
ไม่ใช่แค่ปก Time Magazine ฉบับเดือน ธ.ค.คงเอกลักษณ์อย่างเดียว หากย้อนไปตั้งแต่ Time Magazine เริ่มตีพิพม์ฉบับแรกเมื่อ 3 มี.ค.1923 หรือ 97 ปีก่อน ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เลือกใช้สัญลักษณ์ "กากบาท" สีแดงบนหน้าปกนิตสาร แต่ก่อนหน้านี้ Time Magazine เลือกใช้ "กากบาท" มาแล้ว 5 ครั้ง เพื่อบันทึกช่วงเวลาประวัติศาสตร์และการเสียชีวิตบุคคลสำคัญจากหลายเหตุการณ์ใหญ่ระดับโลกที่ผ่านมา
เริ่มที่ Time Magazine ฉบับ 7 พ.ค.1945 หน้าปกกากบาทแดงบนหน้า "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" หัวหน้าพรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน หรือ "พรรคนาซี" ผู้นำกองทัพเยอรมันและพันธมิตร ทำสงครามเข้ายึดครองดินแดนยุโรปและแอฟริกาเหนือ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่เผด็จการฮิตเลอร์จะยิงตัวตายด้วยปืนพกของตัวเอง จากการพบศพผู้นำเยอรมันรายนี้เมื่อวันที่ 2 พ.ค.1945
ถัดมาเพียง 4 เดือน Time Magazine ฉบับวันที่ 20 ส.ค.1945 ได้ใช้สัญลักษณ์ "กากบาท" สีดำทับวงกลมสีส้มเข้มซึ่งเปรียบเทียบเป็น "จักรวรรดิญี่ปุ่น" บนปกหนังสืออีกครั้ง ต่อเนื่องจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ในการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองฮิโรชิมะและนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่นด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา จากคำสั่งตรงประธานาธิบดี "แฮร์รี เอส ทรูแมน" เมื่อวันที่ 6 ส.ค. และวันที่ 9 ส.ค.1945 ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยกธงขาวยอมแพ้อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ก.ย.1945
จากนั้นตลอด 58 ปี Time Magazine ไม่ได้ใช้สัญลักษณ์ "กากบาท" บนหน้าปกอีกเลย จนมาถึงฉบับวันที่ 21 เม.ย.2003 ต่อการเสียชีวิตของ "ซัดดัม ฮุสเซน" อดีตประธานาธิบดีของอิรัก เคยดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศตั้งแต่ 16 ก.ค.1979 ถึง 9 เม.ย.2003 จากการถูกจับกุมและถอดออกจากตำแหน่ง โดยกองกำลังนานาชาตินำโดยสหรัฐอเมริกาเข้าควบคุมกรุงแบกแดดในปฏิบัติการพายุทะเลทราย ถือเป็นครั้งที่สองที่ Time Magazine เลือกใช้ "กากบาท" สีแดงบนปกทับใบหน้า "ฮุสเซน" ก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตในปี 2006
ต่อมาในปี 2006 Time Magazine ฉบับวันที่ 13 มิ.ย.2006 ใช้ "กากบาท" สีแดงทับบนใบหน้า "อาบู มูซาบ อัล-ซากาวี" ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ หรือ "แอล-ไคดา" ซึ่งถูกสังหารพร้อมกับคนสนิทอีก 7 คน ในระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่เมืองบาคูบา กรุงแบกแดด ประเทศอิรัก จากกองทัพอิรักและสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ซึ่ง "อัล-ซากาวี" ถือเป็นผู้นำอันดับต้นๆ ของกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งเชื่อว่า "อัล-ซากาวี" เป็นหนึ่งในผู้บงการคนสำคัญในการก่อความไม่สงบในประเทศอิรัก
จากปฏิบัติไล่ล่าแกนนำกลุ่ม "แอล-ไคดา" ของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเป้าหมายคนสำคัญ "อุซามะฮ์ บิน ลาเดน" ถูกฝ่ายปฏิบัติการลับหน่วยซีล 6 นายของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา เข้าสังหารผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ ภายในบ้านหลังพักในเมืองอับบอตตาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2011 กลายเป็นหนึ่งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จากเหตุวินาศกรรม 11 ก.ย.2001 จนเป็นที่มาของหน้าปก Time Magazine ฉบับพิเศษ 20 พ.ค.2011 ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 ต่อการใช้ "กากบาท" บนปกซึ่งครั้งนี้เป็นเส้นสีแดงทับใบหน้า "บิน ลาเดน" พร้อมข้อความ "Special Report The End Of Bin Laden"
หากรวบรวมการออกแบบปกตลอดการตีพิมพ์มายาวนานกว่า 97 ปี Time Magazine เลือกใช้ "กากบาท" รวมมาแล้ว 6 ครั้งเพื่อบอกเล่าบันทึกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ บน "สื่อสิ่งพิพม์" ที่ชื่อว่ามีอายุยาวนานมากที่สุดในโลก เมื่อการก่อเกิดของ Time Magazine จากนิตยสารข่าวรายสัปดาห์เล่มแรกของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งโดย บริตัน แฮดเดน และเฮนรี ลูซในปี 1923 จนสามารถขยายฐานตีพิมพ์ไปแล้วหลายประเทศทั่วโลก
โดยในยุโรปใช้ชื่อว่า "ไทม์ยุโรป" ในอดีตเรียกว่า ไทม์แอตแลนติก มีสำนักงานอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อจำหน่ายในยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา รวมถึงละตินอเมริกา ส่วนในเอเชียใช้ชื่อว่า "ไทม์เอเชีย" มีสำนักงานที่ฮ่องกง ขณะที่ "ไทม์แคนาดา" เป็นฉบับสัญชาติแคนาดาจำหน่ายในประเทศแคนาดา และ "ไทม์เซาท์แปซิฟิก" จำหน่ายครอบคลุมทั่วออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกาะแปซิฟิก มีสำนักงานอยู่ที่นครซิดนีย์
เมื่อจุดเด่นถูกนำเสนอผ่านร้อยเรื่องราวในปกหน้านิตยสารตลอดอายุ 97 ปีทั้ง 5 ครั้งจนถึงการเลือกใช้ "กากบาท" ขีดฆ่าบนหน้าปก Time Magazine ฉบับเดือน ธ.ค.2020 ครั้งนี้เชื่อได้ว่าย่อมไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
