เครือมติชนส่งแรงใจสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ เป็นเสาหลักวงการสื่อในสถานการณ์ที่ท้าทาย

----

"ขรรค์ชัย บุนปาน" ประธานเครือมติชน มอบทุนสนับสนุนสมาคมนักข่าวฯ 1 หมื่นบาท พร้อมให้กำลังใจทำงานเพื่อคนส่วนใหญ่ ขณะที่ผู้บริหารในเครือ มองสถานการณ์สื่อยุคนี้ มีความลำบากหลายด้าน จากวิกฤตภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไป ความน่าเชื่อถือสื่อลดลง การหาคนข่าวเข้ามาทำงาน ปัญหาความอยู่รอดในวิชาชีพ นิยาม "เสรีภาพ" ที่อธิบายหลายมิติ สนับสนุนให้สมาคมนักข่าวฯ ทำงานเพื่อส่วนรวม เป็นเสาหลัก สร้างการยอมรับจากคนแวดวงวิชาชีพต่อไป  

---

คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริหารบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารสื่อเครือมติชน ประกอบด้วย 

นายปราปต์ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย นายสุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

รองกรรมการผู้จัดการระบบสื่อออนไลน์ และ บรรณาธิการ กองบรรณาธิการข่าวสด นายวรศักดิ์ ประยูรศุข

กรรมการผู้จัดการบริษัท งานดี จำกัด นายนฤตย์ เสกธีระ บรรณาธิการ กองบรรณธิการมติชน นายสมปรารถนา คล้ายวิเชียร ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลมีเดีย และ นายสุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร บรรณาธิการ กองบรรณธิการมติชนสุดสัปดาห์ เนื่องในโอกาสเข้าแลกเปลี่ยน รับฟังความคิดเห็นสถานการณ์สื่อและข้อเสนอแนะต่อสมาคมนักข่าวฯ เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา

นางสาวน.รินี เรืองหนู นายกสมาคมนักข่าวฯ กล่าวว่า สมาคมนักข่าวฯ เข้าสู่ปีที่ 69 ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 2,300 คน มีทั้งนักข่าวที่ยังทำงานอยู่และนักข่าวอาวุโสที่เกษียณแล้ว ภารกิจของสมาคมนักข่าวฯ ดูแลสวัสดิการสมาชิก เช่น ค่ารักษาพยาบาล ทุนการศึกษาบุตร ตลอดจนการพัฒนา ส่งเสริมศักยภาพสมาชิกฝึกอบรมทักษะอาชีพ  ในช่วงวาระการทำงาน 2 ปี เรามีพันธกิจหลัก คือ ดูแลปัญหาสิทธิเสรีภาพของสื่อ สวัสดิการ การพัฒนาด้านต่างๆ  และต้องหาแนวร่วมเพื่อนำไปปรับปรุงอาคารของสมาคม ถนนสามเสน ปัจจุบันกำลังก่อสร้างรถไฟใต้ดิน  ทำให้ได้รับผลกระทบต้องย้ายที่ทำการออกไปชั่วคราว แต่จะกลับไปในช่วง 1-2 ปี

"สถานการณ์สื่อค่อนข้างวิกฤต ทุกสำนักสื่อล้วนประสบปัญหา แต่เราพยายามคิดหาสิ่งที่เป็นประโยชน์กับสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เราให้สวัสดิการการรักษาพยาบาล แต่เดิมจากที่สมาชิกสามารถเบิกค่ารักษาผู้ป่วยนอก (OPD) ได้ครั้งละ 500 บาท ปีละ 6 ครั้ง รอบนี้เราเสริมให้เบิกค่าทำฟันเพิ่มเติมได้จากที่หักประกันสังคมแล้ว ในส่วนนี้สามารถนำใบเสร็จมาเบิกกับสมาคมได้ 500 บาทต่อครั้ง ให้รวมอยู่ในการเบิกโอพีดีด้วย เรายังให้สิทธิสมาชิกนักข่าวอาวุโสสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลค่าแอดมิด 5,000 บาท 2 ครั้งต่อปี ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกอีก 12 ครั้งต่อปี ครั้งละ 1,000 บาท” นางสาว น.รินี กล่าว

นายวิษณุ นุ่นทอง กรรมการสมาคมนักข่าวฯ ฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ กล่าวว่า สมาคมนักข่าวฯ เป็นองค์กรที่เกิดขึ้นเก่าแก่ แต่ช่วงหลังมีเสียงสะท้อนว่า หลายคนที่เป็นสมาชิกไม่ให้ความสำคัญกับสมาคมอาจเพราะหลายสาเหตุ รู้สึกดีใจเครือมติชนให้การต้อนรับ เปิดโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อที่จะนำมุมมองไปพัฒนาสมาคมนักข่าวฯ ซึ่งจะส่งผลดีต่อทิศทางสมาคมที่ก่อตั้งมานานให้เดินหน้าอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ต่อไป 

นางอุษา มีชารี อุปนายกสมาคมฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ กล่าวว่า ปัญหาสิทธิเสรีภาพสื่อ ปัจจุบันมีหลายมุมมองที่ต้องถกเถียง ยังมีปัญหาทุนธุรกิจ เข้ามากดทับสื่อ สุดท้ายเราจะเดินแยกกันอย่างไรเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างอุดมการณ์กับธุรกิจที่ไปด้วยกันได้ จึงอยากมาฟังมุมมองจากผู้บริหารสื่อสังกัดต่างๆ และเครือมติชน  

นายชำนาญ ไชยศร อุปนายกฯ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษและพัฒนาศักยภาพสื่อ กล่าวว่า การผลักดันจัดกิจกรรมของสมาคมที่ผ่านมา มีสำรวจความต้องการของสื่อและปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลอด เช่น โครงการอบรมเซฟตี้เทรนนิ่ง ที่จัดมาแล้ว 13 ครั้ง เรายกเหตุการณ์จำลอง สถานการณ์การชุมนุม ภัยพิบัติ เพื่อให้นักข่าวใหม่ได้รับรู้กรณีมีเหตุฉุกเฉินระหว่างลงพื้นที่  เรายังมีโครงการพิราบน้อย อบรมนักศึกษาก่อนมาเป็นสื่อมวลชน  ทุกกิจกรรมทำงานกันหนักมากในการหนุนเสริมพี่น้องสื่อมวลชน โดยเฉพาะชมรมนักข่าวอาวุโสที่เราอยากฟื้นฟูภาพลักษณ์ของสมาคมนักข่าวฯ ให้เหมือนก่อน

นายอนุชา เจริญโพธิ์  อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ กล่าวว่า เรามีหน้าที่ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีซึ่งกันและกันระหว่างสมาคมนักข่าวฯ กับองค์กรนักข่าวส่วนใหญ่ในอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา หรือจีนที่ความสัมพันธ์เหนียวแน่น เรามีโครงการเยี่ยมเยียนระหว่างสองประเทศ ส่วนเมียนมาหายไปนานแต่กำลังกลับมาฟื้นฟูใหม่   

นายชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม รองเลขาธิการฝ่ายสิทธิเสรีภาพฯ กล่าวว่า สถานการณ์สื่อยุคนี้ ถูกดิสรัปหนักจากเทคโนโลยี อุตสาหกรรมสื่อที่เปลี่ยนไป เกิดวิกฤตวงการวิชาชีพ การขาดแคลนบุคลากรข่าวมืออาชีพ สื่อเน้นยอดวิว เกิดปัญหาคุณภาพ สมาคมนักข่าวฯ อยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทายจากวิกฤตสื่อหลายด้านที่ต้องรับฟังมุมมองจากสื่อหลักที่เกี่ยวข้อง  

ด้านนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)  ได้กล่าวขอบคุณที่คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ มาเยือนเครือมติชน พร้อมมอบเงิน จำนวน 1 หมื่นบาท ให้เป็นทุนเริ่มต้นแก่คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ สำหรับดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมนักข่าวฯ อีกทั้งได้ให้กำลังใจในการทำงานในช่วง 2 ปีจากนี้

"ผมเพิ่งอายุ 80 ปี เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ในชีวิตได้ค้นพบว่า กับดักอย่างหนึ่ง คือ กับดักตัวเองที่คิดว่าตัวเองใหญ่เท่านั้น เท่านี้ แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ จะทำอย่างไรให้เราเป็นคนส่วนหนึ่งในคนส่วนใหญ่ให้ได้ ท่ามกลางปัญหาความยากจน  การศึกษา ความเหลื่อมล้ำ ในยศถาบรรดามี ให้เอาคนส่วนใหญ่เป็นตัวตัดสิน ไม่ต้องให้คนนอกมาช่วย ขอให้ช่วยกัน แล้วศักดิ์ศรี ความเจริญ การยอมรับของสมาคมจะกลับมาเอง ขอขอบคุณทางสมาคมนักข่าวฯ ที่มาเยี่ยมเยือนในวันนี้ คิดว่าจะได้พบปะกันอีกในโอกาสต่อๆไป" นายขรรค์ชัย กล่าว

นายปราปต์ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย เครือมติชน  กล่าวว่า หากสมาคมนักข่าวฯ ต้องการแลกเปลี่ยนมุมมองในงานวิชาชีพด้านต่างๆ  ไม่ว่า สถานการณ์สื่อมวลชน ความอยู่รอดในวิชาชีพ ทางเครือมติชนก็พร้อมให้ความร่วมมือและคิดว่ามีประสบการณ์พอที่จะแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน   

นายสุริวงค์ เอื้อปฏิภาน รองกรรมการผู้จัดการระบบสื่อออนไลน์ และ บรรณาธิการ กอง บก.ข่าวสด

กล่าวว่า ภาระหน้าที่ของสมาคมนักข่าวฯ ยุคนี้ คือการทำให้สมาคมนักข่าวฯ กลับมาเป็นองค์กรหลักของวงการ ซึ่งข้อเท็จจริงก็รู้กันอยู่ว่า ปัจจุบันมีหลายองค์กร  แต่หลักจริงๆ แล้ว ต้องเอาคำว่า “สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย” กลับมาเป็นหลักให้ได้ สมัยก่อนชื่อสมาคมนักข่าวขลังมากมีบทบาทสูง วันนี้ก็คือ องค์กรเดิมแต่มีชื่อเพิ่ม ซึ่งสมาคมนักข่าวฯ ก็ยังเป็นหลักของวงการ เครือมติชนยินดีที่จะช่วยให้สมาคมนักข่าวฯ กลับมาเป็นหลักให้ได้

"สมาคมทำงานเยอะ แต่หนักไปทางสวัสดิการ เสริมความรู้ แต่บทบาทที่เราจะทำให้สมาคมกลับมาเป็นที่พูดถึงในวงการ คือ ประเด็นสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน แต่แน่นอน โลกและสังคมไทยได้เปลี่ยนไปเยอะมาก แม้แต่คำว่า ประชาธิปไตย หรือ เสรีภาพ  ก็มีคำอธิบายหลายมิติ แต่ในบางสถานการณ์ เราจะเห็นปรากฎการณ์เองว่า สมาคมนักข่าวฯ ควรจะมีบทบาทอย่างไร และก็คงช่วยกันให้บทบาทของสมาคมนักข่าวฯ เด่นชัดขึ้นมา" นายสุริยวงค์ กล่าว 

นายสุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร บรรณาธิการ กอง บก.มติชนสุดสัปดาห์ กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้สมาคมนักข่าวฯ เพราะต้องยอมรับว่า สถานการณ์สื่อของเราเปลี่ยนไปทั้งในเชิงธุรกิจ วิชาชีพทุกอย่าง ความน่าเชื่อถือของพวกเราลดทอนลงไป เห็นใจน้องๆ กรรมการสมาคมนักข่าวฯ ที่ก้าวมารับงานในช่วงที่หนักมาก เพราะขนาดเสรีภาพยังนิยามได้หลายด้าน แต่เดิมแถลงการณ์ของสมาคมนักข่าวฯ ที่ออกมาเยอะมาก แต่หลังๆ ก็เกิดคำถามและคำวิจารณ์ตลอดเวลาซึ่งเป็นงานที่ยากมาก อยากให้กำลังใจน้องๆ ทำอย่างไรให้ความน่าเชื่อถือ การแสดงท่าที จุดยืนที่สามารถเป็นหลักให้กับวงการสื่อได้ 

นายนฤตย์ เสกธีระ บรรณาธิการกอง บก.มติชน กล่าวว่า อยากให้สมาคมนักข่าวฯ ยึดหลัก 3 อย่าง ตามที่นายกสมาคมนักข่าวฯ ได้ประกาศไว้ในวันที่ได้รับเลือกตั้ง คือ การส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ ดูแลผู้ประกอบวิชาชีพ ส่งเสริมวงการและการทำงานของคนในวิชาชีพ ถ้าทำสิ่งเหล่านี้ทุกสื่อพร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามากาลเวลาจะพิสูจน์เองตัวเราเอง การเดินทางมาครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องดี ได้เชื่อมความสัมพันธ์ เครือมติชนยินดีที่จะร่วมมือกันเพื่อให้สมาคมนักข่าวฯ แข็งแกร่งต่อไป

นายสมปรารถนา คล้ายวิเชียร ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลมีเดีย  กล่าวว่า  เห็นใจกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งวิกฤตภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไป สังคมออนไลน์ โซเชียลมีเดียเข้ามาเป็นทางเลือกของประชาชน ซึ่งเราก็เจอปัญหาเหมือนกัน เช่น การหาบุคลากรข่าว เป็นเรื่องที่ยากมาก และซับซ้อนพอสมควร พอสร้างคนเสร็จเขาก็พร้อมที่จะออกตลอด ถ้ามีประเด็นความร่วมมือด้านการส่งเสริม ฝึกอบรมทักษะให้กับคนแวดวงสื่อก็น่าจะเป็นแรงดึงดูดให้คนเข้ามาในแวดวงวิชาชีพมากขึ้น

---